อว.ประกาศความพร้อมจัดงาน“มหกรรมวิทย์ 2563” ในรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ ชวนสัมผัสประสบการณ์เรียนรู้วิทย์วิถีใหม่ ผ่านนิทรรศการเสมือน 3 มิติ ชมได้ทั้งในสถานที่จริงและแบบออนไลน์
วันนี้ (29 ตุลาคม 2563) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประกาศความพร้อมจัดงานไฮบริดอีเว้นท์ “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2563” ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” จับมือพันธมิตร 88 หน่วยงาน จาก 11 ประเทศ ร่วมโชว์ผลงานและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย พร้อมชวนเยาวชนเปิดประสบการณ์เรียนรู้วิทย์วิถีใหม่ผ่านนิทรรศการเสมือน 3 มิติ ทั้งแบบเข้าชมงานในสถานที่จริง (on ground)และรับชมแบบออนไลน์ ผ่าน www.thailandnstfair.com
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เปิดเผยว่า กระทรวงอว.โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ได้จัดงาน“มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ”มาตั้งแต่ปี 2549 โดยเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 18 สิงหาคมของทุกปี แต่ในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิค-19 py’อยู่ในช่วงการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด จึงเลื่อนการจัดงานไปเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ระหว่างวันที่ 13-23 พฤศจิกายน 2563 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ทั้งนี้งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ ที่ผสมผสานระหว่างการเข้าชมงานในฮอลล์ หรือเลือกรับชมจากที่บ้านก็ได้ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งมีการสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เยาวชนได้มีบทบาท และมีส่วนร่วมภายในงานมากขึ้น โดยงานดังกล่าวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก 88 หน่วยงาน 11 ประเทศ เพื่อสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ นำไปสู่การต่อยอดความคิดสู่การเป็นนวัตกรรุ่นใหม่ของประเทศในอนาคต ตลอดจนโชว์ศักยภาพผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นำไปใช้ได้จริง ตามกรอบนโยบายของ อว.
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก กล่าวว่า งานมหกรรมวิทย์ฯ จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ชาติที่จะเจริญจะขาดวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ดั่งเช่นที่พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด และทรงนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้การพัฒนาประเทศจะขาดวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ประเทศที่เจริญต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์ การลงทุน การวิจัยและการพัฒนา และประเทศยิ่งจนต้องยิ่งวิจัย ซึ่งตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย ชวาหะร์ลาล เนห์รู ที่ว่า “เพราะอินเดียจน อินเดียจึงต้องวิจัย อินเดียสละงบประมาณมาสร้างคนและทำวิจัย จนบัดนี้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมหนึ่งในสิบของโลก”
สำหรับไฮไลท์ของงานปีนี้ ทาง อว. ได้คัดเลือกนิทรรศการหลักที่มีเนื้อหาอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน มีความเป็นสากล และมุ่งเน้นการนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ มาจัดแสดงในรูปแบบออนไลน์ (Virtual Science Fair) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเข้าชมงานให้แก่เยาวชนและผู้สนใจทั่วประเทศ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ I Royal Pavillion, นิทรรศการเจาะนวัตกรรมเกม I Tech behind Games เรียนรู้นวัตกรรมในการพัฒนาเกมจนกลายมาเป็นกีฬาออนไลน์, ตื่นตาตื่นใจกับการจำลองชีวิตบนดาวอังคาร! ในนิทรรศการหนึ่งวัน… (บนดาว)อังคาร | A Day on Mars, มาเรียนรู้ สู้มหันตภัยจิ๋วในนิทรรศการมหันตภัยจิ๋ว | Micro Monster, เรียนรู้และสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ในนิทรรศการอนาคตออกแบบได้ I Sustainable Design
ด้าน ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า งานมหกรรมวิทย์ฯ ปีนี้ นับเป็นมิติใหม่ของจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของประเทศ ในรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ ไม่เพียงลดช่องว่างการเข้าถึงงานจากผู้เข้าชมงานที่อยู่พื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมา แต่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้และเสนอช่องทางเลือกให้ผู้เข้าชมงาน สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมและเปิดมุมมองการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านช่องทางใหม่นี้
โดยมี 2 ช่องทางในการเข้าชมงาน ช่องทางแรกคือเข้าชมงานในสถานที่จริง (On ground platform) ที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-23 พฤศจิกายน 63 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดให้เข้าชมงานฟรี! ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. โดยมีมาตรการจำกัดผู้เข้าชมงาน และมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์เข้าชมงานล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์งาน
ส่วนช่องทางที่สองคือเข้าชม 6 นิทรรศการเสมือน 3 มิติ พร้อมกิจกรรมออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 63 เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์งาน www.thailandnstfair.com และสามารถรับชมกิจกรรมและนิทรรศการต่างๆ ที่จัดขึ้น การเยี่ยมชมงานของพรีเซนเตอร์และเหล่าคนดังที่มาเยี่ยมชมงานที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผ่านการถ่ายทอดสดในมุมมอง 360 องศา ทางเฟซบุ๊กของงาน NSTFair Thailand www.facebook.com/nstfairTH รวมทั้งร่วมสนุกกับกิจกรรมแจกของรางวัล Limited Edition ตลอดการจัดงานทุกวัน
ผศ.ดร.รวิน กล่าวอีกว่า “ด้วยประสบการณ์ตลอด 14 ปีของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ การปรับการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ของ อพวช.เป็นรูปแบบออนไลน์ Virtual Museum และการบริหารการเข้าชมงานทั้ง 4 พิพิธภัณฑ์แบบ New Normal ของ อพวช. หลังปลดล็อคดาวน์ เราได้เตรียมความพร้อมในการรองรับผู้เข้าชมในแต่ละวัน มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน ทั้งด้านสถานที่ ระบบสาธารณูปโภค มาตรการป้องกันโควิด-19 ระบบการจราจร การบริการรถรับ-ส่งภายในงาน การปฐมพยาบาล การรักษาความปลอดภัย การบริการต้อนรับ ร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลต้อนรับและอำนวยความสะดวกผู้เข้าชมงาน”
สำหรับโรงเรียนที่ต้องการเข้าชมงานเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองเข้าชมงานได้ที่เว็บไซต์งาน หรือ ติดต่อ อพวช. โทร 02 577 9960 ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงาน ได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook งาน NSTFair Thailand www.facebook.com/nstfairTH หรือสอบถามข้อมูลที่ อพวช. โทร. 0 2577 9960