การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ดำเนินการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานทางเลือกเพื่อสร้างแหล่งพลังงานที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามยุทธศาสตร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาเสริมสร้างความมั่นคง (Strengthening) ในงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับชุมชนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะให้แก่ชุมชนและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน
นายพงศกร ยุทธโกวิท ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า PEA ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการวิจัย “การศึกษาเทคโนโลยีและพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานขยะ” โครงการวิจัยนี้เป็นการนำขยะพลาสติกมาแปรสภาพเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนดีเซล โดยผ่านกระบวนการสลายตัวด้วยความร้อน หรือ ไพโรไลซิส (Pyrolysis) แปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนดีเซลขนาดกำลังผลิต 2,000 ลิตรต่อวัน จากขยะพลาสติก 3.5 ตันต่อวัน
ในปี 2564 ที่ผ่านมา การดำเนินโครงการวิจัยเครื่องต้นแบบการผลิตน้ำมันไพโรไลซิสจากขยะพลาสติก และกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเพื่อให้สามารถใช้ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดดีเซลได้ รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงทดแทนดีเซลที่ได้จากการไพโรไลซิสขยะพลาสติก และชีวมวล ซึ่งได้ส่งมอบน้ำมันดีเซลผลิตจากขยะพลาสติกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท และนครสวรรค์ รวมจำนวน 300 ลิตร
ทั้งนี้ PEA เล็งเห็นถึงปัญหาขยะตกค้างในพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่สามารถกำจัดได้โดยง่ายและขยะพลาสติกซึ่ง รวมถึงความมั่นคงทางพลังงานบนพื้นที่เกาะ ดังนั้นผลลัพธ์จากการศึกษาโครงการดังกล่าวเราจึงคัดเลือกพื้นที่เกาะสีชัง เป็นพื้นที่นำร่องเพื่อขยายผล โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของพื้นที่ ศักยภาพในการพัฒนาระบบไฟฟ้าและปัญหาของปริมาณขยะตกค้างในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้าได้ 3,500,000 หน่วยต่อปี และคาดการณ์ว่าสามารถลดปริมาณขยะตกค้างบนพื้นที่เกาะได้มากกว่า 50%