ไทย-ญี่ปุ่นจับมือผลิต “วิศวกรนักปฎิบัติโคเซ็น” ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล2ประเทศ

News Update

ไทย-ญี่ปุ่นจับมือผลิต “วิศวกรนักปฎิบัติโคเซ็น” ขับเคลื่อนงานตามนโยบายนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ “เอนก” เผยญี่ปุ่นพร้อมร่วมมือด้านอุดมศึกษาขับเคลื่อนสถาบันโคเซ็นไทย – ญี่ปุ่น เรียนจบพร้อมทำงานในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในพื้นที่อีอีซี

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ศ.(พิเศษ) ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อหารือการขับเคลื่อนโครงการผลิตวิศวกรนักปฏิบัติ หรือ “โคเซ็น” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมาย อว. ให้เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการผลิตวิศวกรที่เน้นทั้งทางด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ ตามแนวทางที่ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จแล้วในการสร้างวิศวกรนักปฎิบัติ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นได้เห็นชอบร่วมกันให้เป็นโครงการสำคัญในความร่วมมือด้านการอุดมศึกษาของทั้งสองประเทศ

          “ประธานของสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติของญี่ปุ่น ศ.ไอซาโอะ ทานิกุชิ ซึ่งดูแลสถาบันโคเซ็นทั้ง 51 แห่งของญี่ปุ่น ได้เข้าพบผมและปลัด อว. เพื่อประชุมหารือกันในระดับนโยบาย รวมทั้งได้เชิญให้ไปเยือนสถาบันโคเซ็นสำคัญ ทั้งที่กรุงโตเกียวและจังหวัดคิซาราสุ พบปะกับอาจารย์และนักศึกษา ตลอดจนได้ไปหารือกับบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่รับเอาวิศวกรนักปฏิบัติจากโคเซ็นไปปฏิบัติงาน พบว่า การผลิตวิศวกรนักปฏิบัตินี้เป็นกลไกที่น่าสนใจ เกิดผลอย่างแท้จริง และสามารถนำมาประยุกต์สำหรับในประเทศไทยได้” รมว.อว. กล่าว

            ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการของสถาบันไทย-โคเซ็น กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือกับประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จอย่างดีและได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์มาก โดย อว. และสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติของญี่ปุ่น ได้เห็นชอบร่วมกันและยืนยันที่จะขับเคลื่อนให้สถาบันไทย-โคเซ็น ในประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในแง่การผลิตบุคลากรและการวิจัย โดยจะมีการรับรองมาตรฐาน KOSEN International Standard ซึ่งนักศึกษารุ่นแรกที่เรียนในประเทศไทยนี้จะจบการศึกษาในสองปีข้างหน้า ผลการเรียนน่าพอใจมาก ดังนั้นจึงได้หารือในการให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเข้าทำงานได้ในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในเขตเศรษฐกิจอีอีซีด้วย