รมว.ดีอีเอส ตรวจศูนย์ดิจิทัลชุมชน วิทยาลัยชุมชนพังงา และโครงการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านไปรษณีย์ไทย เร่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ กลุ่มฐานราก เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย สร้างโอกาสเข้าถึงช่องทางตลาดออนไลน์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวระหว่างเยี่ยมชมศูนย์ดิจิทัลชุมชน วิทยาลัยชุมชนพังงา และโครงการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านไปรษณีย์ไทย (ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท) ว่า เป็นผลสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เร่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ สร้างงานในพื้นที่โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มฐานราก เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย และเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ผ่านออนไลน์ โดยศูนย์ดิจิทัลชุมชน ตั้งอยู่ในวิทยาลัยชุมชนพังงา ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา กลุ่มผู้ใช้งานเป็นเด็ก เยาวชน ประชาชนและกลุ่มแม่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือ เกษตรกรรม ประมง และรับจ้าง และเป็นหนึ่งในศูนย์ดิจิทัลชุมชนตามแผนการนำร่อง 250 แห่ง ที่มีการปรับรูปแบบการให้บริการศูนย์ฯ ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในชุมชน เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ จัดอบรมการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้กับประชาชนทั่วไป เป็นต้น
ทั้งนี้เนื่องจากได้รับนโยบายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ต มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ช่วยสนับสนุนทั้งด้านการศึกษาให้เด็กๆ ให้กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน มาใช้ทำการค้าขายออนไลน์ และใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ด้วย กระทรวงฯ จึงผลักดันให้เกิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนทั่วประเทศ ปี2563 ได้ตั้งแล้ว 250 ศูนย์ ปีหน้า 2564 กำลังจัดตั้งอีก 250 ศูนย์ ให้ครบ 500 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยการค้าขายออนไลน์สามารถเชื่อมต่อการขายผ่านเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยได้
สำหรับโครงการไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ของ ไปรษณีย์ไทย โดยมีตัวแทนชุมชนจากหลายพื้นที่ของ จ.พังงา และผู้ผลิตสินค้าร่วมกันมานำเสนอสินค้า ปัจจุบันวางจำหน่ายผ่าน e-Marketplace ของ www.Thailandpostmart.com ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านปริง ปณอ.พังงา 104 วิสาหกิจ ชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านเขาตำหนอน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล ท่าปากแหว่ง และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพังงา
โดยไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ได้พัฒนาระบบงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. พัฒนาระบบร้านค้าออนไลน์ (e-Marketplace) ที่ทันสมัยเพื่อให้ชุมชนนำสินค้าหรือบริการมาขึ้นทะเบียนจำหน่ายบนเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com 2. พัฒนาระบบการชำระเงิน (e-Payment) รองรับธุรกรรมการชำระเงินจากผู้สั่งซื้อสินค้า และการจ่ายเงินค่าสินค้าให้กับผู้ประกอบการได้อย่างสะดวก ทันสมัย ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และ 3. พัฒนาระบบการขนส่ง (e-Logistics) ระบบการแจ้งเตือนข้อมูลคำสั่งซื้อไปยังที่ทำการไปรษณีย์ต้นทาง และผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อเตรียมการจัดส่งสินค้า วางเส้นทางและรูปแบบ วิธีการขนส่งสินค้าให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท เช่น ระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับการขนส่งผลผลิตการเกษตร อาหาร พัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งที่มีมาตรฐาน ลดการสูญเสีย เป็นต้น ระบบการแสดงสถานะ การขนส่งเพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้สั่งซื้อใช้ตรวจสอบรายการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก ทันสมัยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต