คณะนักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมศรัทธาศิษย์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย นำเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แบบพกพาพิสูจน์พระพุทธรูปทองคำปางห้ามญาติ ณ วัดป่าสาลวัน ได้ผลวิเคราะห์เป็นทองคำแท้ จากนั้นศิษยานุศิษย์ได้นำไปประดิษฐานเพื่อให้พุทธศาลนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้สักการะ
นครราชสีมา – รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน พร้อมคณะนักวิทยาศาสตร์ ได้นำเครื่องวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แบบพกพา พิสูจน์พระพุทธรูปปางห้ามญาติ นามว่า “72 พรรษาฐานิโย ภิกขุ (พุธ อินหา)” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม ที่ศิษยานุศิษย์พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รวบรวมทองคำเพื่อหล่อและจัดสร้างพระพุทธรูปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2536 เพื่อถวายแก่อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย มีความประสงค์จะให้พระพุทธรูปองค์นี้เป็นสมบัติของชาวนครราชสีมา โดยปัจจุบันศิษยานุศิษย์นำโดยเจ้าคณะจังหวัด (ธ) พระราชวชิราลังการ วิ. (คำปอน สุทธิญาโน) มีความประสงค์นำองค์พระพุทธรูปไปตั้งประดิษฐานเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธากราบไหว้สักการะ ณ วัดป่าสาลวัน ทางจังหวัดนครราชสีมาจึงขอความอนุเคราะห์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนช่วยตรวจสอบองค์ประกอบในพระพุทธรูป เนื่องจากสถาบันฯ มีเครื่องมือที่สามารถตรวจสอบได้
ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้นำแผ่นทองคำมาตรฐานที่มีความบริสุทธิ์ต่างๆ ตั้งแต่ 24 กะรัต, 21 กะรัต, 18 กะรัต, 14 กะรัต และ 9 กะรัต มาวัดลักษณะเดียวกันกับพระพุทธรูปเพื่อเทียบความบริสุทธิ์ของทองคำ ผลจากการทดสอบด้วยเครื่องวัดการเรืองรังสีเอกซ์แบบพกพา (XRF Analyzer) ด้วยรูปแบบการวัดที่เหมาะกับโลหะมีค่าและอัญมณี พบว่าพระพุทธรูปเป็นทองคำ 95% และศิษยานุศิษย์ได้นำพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ไปตั้งประดิษฐาน ณ วัดป่าสาลวัน เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา