สถานการณ์ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราต้องเผชิญร่วมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อย่างที่คาดคิดอีกต่อไป ในรายงานของ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) หรือ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้การทำงานขององค์การสหประชาชาติ ฉบับที่ 6 ล่าสุดประจำปี 2022 ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1.5 องศาเซลเซียส จะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกกว่าร้อยละ 8 และหากอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นมากกว่า 2 องศาเซลเชียส เป็นไปได้ว่าประชากรราว 3,000 ล้านคนทั่วโลกต้องพบกับภาวการณ์ขาดแคลนน้ำและอาหาร และยังกระทบต่อการเติบโตของเด็ก ๆ ในหลายพื้นที่ตามมาอีกด้วย
การช่วยลดโลกร้อนต้องเริ่มจากทุกคน อย่างหนึ่งที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งว่าโลกกำลังเปลี่ยน แหล่งพลังงานผลิตไฟฟ้าเริ่มร่อยหรอลงทุกวัน การมองหาพลังงานทางเลือกใหม่อย่าง “พลังงานจากแสงอาทิตย์” ถือเป็นแหล่งพลังงานจากธรรมชาติ ที่สร้างโอกาสและเป็นแสงสว่างของการนำมาใช้ขับเคลื่อนในทุกภาคส่วน รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเครื่องใช้หรืออุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ “โคมไฟโซลาร์เซลล์” ที่นับว่าเป็นการเติบโตและได้รับความนิยมในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น
ประโยชน์ของโคมไฟโซลาร์เซลล์
“โคมไฟโซลาร์เซลล์” ดีกว่าโคมไฟแบบธรรมดาอย่างไร หลายคนตั้งคำถามว่า “ทำไมเราจึงควรหันมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์” แต่เมื่อต้องเผชิญสภาวะต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นทำให้ค่าไฟฟ้าผันแปรหรือค่าเอฟทีของรัฐบาลอันปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ จึงทำให้มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นอีก 4 สตางค์ต่อหน่วย ภายในเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคมศกนี้ และคาดการณ์ว่าในอนาคตอาจจะมีการปรับราคาขึ้นไปตามปัญหาเรื่องพลังงานของโลก ดังนั้น หากประเมินจากคุณสมบัติและการใช้งานจริงจะเห็นความสำคัญที่เราควรเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์ใน 5 เหตุผล ประกอบด้วย
1. ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาด เปลี่ยนจากแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้า และยังสามารถใช้และเก็บพลังงานไว้ได้ในตัวเอง ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเหมือนโคมไฟทั่วไป อีกทั้งโคมไฟโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ยังมีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ทำให้ไม่สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
2. ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยเมื่อใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์ การใช้งานโคมไฟโซลาร์เซลล์จึงช่วยให้เราประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงไปในตัว เมื่อมีการใช้งานทดแทนโคมส่องสว่างแบบเดิม ก็จะช่วยให้แต่ละบ้านประหยัดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องเปิดไฟทิ้งไว้ได้เลย
3. เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะการเริ่มต้นเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์เราสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ฟรีไม่มีวันหมด เพียงแค่ลงทุนครั้งเดียวตอนซื้อเท่านั้น จากนั้นโคมไฟโซลาร์เซลล์จะช่วยลดรายจ่ายประจำเดือนลงได้ในระยะยาว
4. ติดตั้งได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเงินเดินสายไฟใหม่ให้ยุ่งยาก ติดตั้งได้ในทุกที่ที่มีแสงอาทิตย์และบริเวณกลางแจ้ง ไม่ว่าจะติดเป็นโคมไฟนอกบ้าน ไฟติดรั้ว ไฟติดผนัง ไฟทางเดิน หรือแม้แต่ไฟในสวนก็สามารถทำได้เช่นกัน จะเห็นว่าโคมไฟโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน
5. แบตเตอรี่เก็บไฟได้นานขึ้น เมื่อนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน โดยเฉพาะแบบ LiFePO4 หรือเรียกเต็มๆ ว่า “ลิเทียมไอรอนฟอสเฟส” ที่ปัจจุบันพัฒนาให้มีขนาดเบา ความจุไฟฟ้าสูง สามารถชาร์จไฟได้บ่อยทำให้ และยังทนความร้อนได้สูงมากกว่า แบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ สร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
โคมไฟโซลาร์เซลล์แบรนด์คุณภาพ
แม้ว่าในท้องตลาดจะมีผลิตภัณฑ์โคมไฟโซลาร์เซลล์จำหน่ายเป็นจำนวนมาก แต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน คุณภาพสูง มีการรับประกันและมีบริการหลังการขายที่ดี ควรเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจในลำดับแรก ๆ เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยเฉพาะได้มาตรฐาน European Quality จะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพคุ้มค่ายาวนาน
โดยผลิตภัณฑ์หลอดไฟแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง PHILIPS เป็นแบรนด์เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์ไฟแสงสว่างอันดับ 1 ในใจคนไทยต่อเนื่องกว่า 22 ปี สำหรับการออกผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ใหม่จาก PHILIPS ทั้ง 3 ตัวนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของการช่วยลดค่าไฟฟ้าจากการใช้ไฟฟ้าภายนอกอาคาร โดยสามารถประหยัดค่าไฟฟ้า ณ จุดที่ติดตั้งได้ 100% ซึ่งจะช่วยส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคในแต่ละปีลงได้มากกว่า 6 เท่า (*โดยเทียบจากจุดที่เปลี่ยนไฟ) และยังเปิดใช้งานได้สว่างนานยันเช้าอีกด้วย
ประเภทของโคมไฟโซลาร์เซลล์
โดยส่วนใหญ่แล้วไฟโซลาร์เซลล์จะถูกนำมาติดตั้งเพื่อให้แสงสว่างภายนอกอาคาร ซึ่งผลิตภัณฑ์โคมไฟโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่จากฟิลิปส์ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ มีดังนี้
- ประเภทส่องสว่างอเนกประสงค์
สำหรับโคมไฟอเนกประสงค์จะเน้นการใช้งานหลากหลายบริเวณรอบบ้านทั้งในสวน รั้วบ้าน หรือผนังบ้านในจุดพื้นที่ที่ต้องการความสว่าง โดยผลิตภัณฑ์โคมไฟส่องสว่างอเนกประสงค์นี้จะมีให้เลือกหลายขนาด อาทิ 4, 6, 10 วัตต์ ใช้งานพร้อมกับแผงโซลาร์แบบ PV ขนาดเล็ก และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นโคมกันน้ำระดับ IP65 บางแบรนด์ยังมีระบบรีโมทควบคุม ซึ่งของของฟิลิปส์โซลาร์เซลล์ (Solar Flood Light) ในรุ่น BRC010 สามารถควบคุมได้ถึง 7 โหมดการใช้งานตามความต้องการ อีกทั้งยังกระจายแสงได้ดีเพราะติดตั้งเลนส์นนูนช่วยกระจายแสงให้มาด้วย เมื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์ฟิลิปส์ รุ่น BRC10 ขนาด 10 วัตต์ พบว่าช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้ปีละ 1,244 บาท
- ประเภทสองสว่างบนถนน
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์สำหรับการส่องสว่างบนผิวถนน คือ การติดตั้งได้ง่ายในหลายพื้นที่ ไม่ต้องรอการเดินสายไฟเข้ามายังพื้นที่ อีกทั้งผลิตภัณฑ์โคมไฟที่ได้มาตรฐานจะติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อควบคุมการเปิดปิดไฟตามจังหวะการตรวจจับได้อีกด้วย ซึ่งในผลิตภัณฑ์โคมไฟถนนฟิลิปส์โซลาร์เซลล์ (Solar Street Light) รุ่น BVC080 สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้กว้างและไกลกว่าเซ็นเซอร์ทั่วไป จุดนี้จะทำให้ความต่อเนื่องของการเปิดปิดไฟมีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้การส่องสว่างสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และยังกันน้ำได้ในระดับ IP65 โดยพบว่าเมื่อเทียบกับการใช้โคมไฟ Spotlight ฮาโลเจน ขนาด 150 วัตต์ ติดตั้งในสนามภายนอกอาคาร 1 จุด กับการเปลี่ยนมาใช้โคมไฟ Floodlight โซลาร์เซลล์จากฟิลิปส์ รุ่น BVC80 ขนาด 25 วัตต์ ช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้มากขึ้นถึงปีละ 2,529 บาท
- ประเภทติดผนังส่องสว่างเฉพาะจุด
ส่วนใครที่มองหาโคมไฟสำหรับติดตั้งบนผนังที่ให้ความสว่างเฉพาะตำแหน่ง เน้นความสวยงาม สามารถใช้เพื่อการประดับตกแต่งภายนอกบ้านได้ ต้องเลือกประเภทติดผนัง จุดเด่นที่โดนใจผู้ใช้งาน คือ ความสะดวกในการติดตั้งที่ไม่ต้องเดินสายไฟ จึงกลายเป็นจุดที่หลายคนเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์แบบติดตั้งบนผนังมากขึ้น แม้ว่าผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็มีหลากหลายดีไซน์ให้เลือก แต่สำหรับโคมไฟติดผนังฟิลิปส์โซลาร์เซลล์ (Solar Wall Light) รุ่น BWS010 ติดตั้งแผงโซลาร์แบบ PV มาในตัว จึงง่ายขึ้นสำหรับติดตั้งเอง ตัวโคมยังกันน้ำระดับ IP54 ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเลือกจุดติดตั้งได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญยังประหยัดค่าใช้จ่ายเดินสายไฟใหม่และประหยัดค่าติดตั้งไปได้อีกด้วยเช่นกัน
“แสงไฟโซลาร์เซลล์” เพื่อชีวิตที่สดใสและโลกน่าอยู่
นายจาร์กันนาธาน ศรีนิวาสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซิกนิฟายได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate action) ทำให้ซิกนิฟายได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพลังงานและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดตัวสินค้ากลุ่มโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดทั้งระดับ Professional และ Consumer จะช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองของโลกโดยหันมาใช้พลังงานตามธรรมชาติแทน ตามแนวทางเพื่อชีวิตที่สดใสและโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรโลก สังคมและสิ่งแวดล้อม และร่วมกันช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
“ถ้าวางแผนติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด บริษัทฯ มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์จากฟิลิปส์ จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ตอบโจทย์เรื่องค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคได้อย่างดี และเชื่อว่าจะเป็นการเตรียมรับมือกับความผันผวนด้านราคาพลังงานของโลกที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตได้” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว