“ไนท์แฟรงค์” ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ประกาศแต่งตั้ง คุณณัฏฐา คหาปนะ เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของประเทศไทย มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565
คุณณัฏฐา คหาปนะ ทำงานร่วมกับไนท์แฟรงค์มานานกว่า 18 ปี โดยเริ่มจากตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ภูเก็ต ตำแหน่งปัจจุบัน รองกรรมการผู้จัดการ และกำลังจะรับตำแหน่งต่อจาก คุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการที่จะขยับไปรับตำแหน่งประธานบริษัทของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด
คุณพนม กาญจนเทียมเท่า แสดงความเห็นว่า “เป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะพัฒนาและกำหนดทิศทางใหม่ให้กับองค์กร เพื่อตอบสนองต่อโลกธุรกิจที่ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกดีใจอย่างมากที่คุณณัฏฐามารับช่วงต่อในบทบาทหน้าที่นี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมองค์กรของไนท์แฟรงค์ แนวทางการทำงานเป็นทีม ความมุ่งมั่นในการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมของบริษัทฯ ได้อย่างแน่นอน”
ในฐานะประธานคนใหม่ บทบาทความรับผิดชอบของ คุณพนม กาญจนเทียมเท่า คือการสร้างมั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านของบริษัทและความสัมพันธ์กับลูกค้าจะพัฒนาไปอย่างราบรื่น และเน้นไปที่ธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน (Property Management) เป็นหลัก
มร.เควิน คอปเปล กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อ 24 ปีที่แล้ว เป็นส่วนสำคัญของภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 700 คนและให้บริการให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ประกอบไปด้วย การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน การขายและการเช่าซื้อของทรัพย์สินทั้งเพื่อการอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย สำนักงานและการค้าปลีก รวมไปถึงการบริหารทรัพย์สิน การบริหารโครงการ และให้คำแนะนำพื้นที่สำนักงาน ผมได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคุณณัฏฐาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นผู้นำและพัฒนาบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มร. คอปเปล กล่าวเสริมว่า “ผมขอขอบคุณนายพนม กาญจนเทียมเท่า ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ตลอด 24 ปีที่ผ่านมา ด้วยความสามารถที่จะนำพาธุรกิจให้เจริญเติบโตและเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ผมรู้สึกดีใจที่เขาจะมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย”
ณัฏฐา คหาปนะ กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เราจะไม่มองตัวเองเป็นเพียงที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป แต่เราต้องการที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ผมและทีมบริหารจะทำงานร่วมกันอย่างหนัก โดยมุ่งเน้นไปยังการยกระดับคุณภาพงานบริการของบริษัทฯ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่มีอยู่ด้วยการนำระบบดิจิทัลมาปรับใช้ เราตั้งเป้าหมายในพันธกิจเดิมที่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย”