มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ร่วมกับ กฟผ. ลงนามสัญญาให้บริการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า โดยระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบรับประกันผลงาน ในพื้นที่โครงการ Smart Campus ของมหาวิทยาลัย โดยนำระบบบริหารจัดการพลังงานของ กฟผ. มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า ในรูปแบบ Win-Win Solution หวังเป็นต้นแบบขยายผลสู่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ และชุมชน ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 110 ล้านบาท
รศ.ดร.ชาตรี มณีโกศล รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (มร.ชม.) พร้อมด้วยนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามสัญญาให้บริการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า โดยระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบรับประกันผลงาน ในพื้นที่โครงการ Smart Campus ของ มร.ชม.
รศ.ดร.ชาตรี กล่าวว่า มร.ชม. เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และถือเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ได้ลงนามกับ กฟผ. ซึ่งความสำเร็จของความร่วมมือกันในโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการช่วยลดภาวะโลกร้อน ประหยัดพลังงาน และเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม โดยหวังให้เป็นโครงการต้นแบบของการเป็น Smart University ในเรื่องการลดใช้พลังงาน และยังสามารถเป็นต้นแบบขยายผลสู่มหาวิทยาลัยแห่งอื่น หรือชุมชนต่อไปในอนาคต โดยจะนำความรู้ความเข้าใจหรือประโยชน์ที่ได้รับไปเผยแพร่ต่อชุมชนผ่านกระบวนการด้านการศึกษา ในขณะเดียวกันก็จะมีการศึกษาวิจัยร่วมกันกับ กฟผ. เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ ให้สูงขึ้นต่อไป
ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า โลกของเรากำลังเผชิญภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กฟผ. และ มร.ชม. จึงตั้งใจที่จะร่วมมือกันพัฒนามหาวิทยาลัยสู่โครงการ “Smart Campus- Chiang Mai Rajabhat University” รวมถึงบูรณาการความร่วมมือในการใช้งานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของทั้ง 2 ฝ่าย ผ่านการใช้ระบบบริหารจัดการพลังงานในพื้นที่ (Energy Management System: EMS) ซึ่งพัฒนาโดย กฟผ. ระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคาร ภายใต้ Application ที่ชื่อว่า ENZY Platform และระบบกักเก็บพลังงาน (ENGY Wall) ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการจัดการพลังงานแสงอาทิตย์ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในอาคาร และลดค่าพลังงานไฟฟ้า
นอกจากนั้นระบบบริหารจัดการพลังงานในพื้นที่ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบกักเก็บพลังงาน กับระบบเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญสูง ทำให้ระบบเก็บข้อมูลมีความมั่นคง สามารถลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไปจากการขาดความต่อเนื่องของพลังงานไฟฟ้า และยังสามารถใช้พลังงานที่สะสมไว้บางส่วนในระบบกักเก็บพลังงานเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการพลังงาน และลดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ ซึ่ง Platform ที่ กฟผ. จะเตรียมไว้ให้ในพื้นที่ Smart Campus นี้ พร้อมให้ มร.ชม. ได้ศึกษาและต่อยอดงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติด้วย
สำหรับ Smart Campus ของ มร.ชม. ประกอบไปด้วย 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เวียงบัว และพื้นที่ศูนย์แม่ริม โดย กฟผ. มุ่งพัฒนา มร.ชม. ใช้เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้พลังงานสะอาด มีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 1.43 MW ระบบกักเก็บพลังงาน ขนาด 250 kWh ระบบบริหารจัดการพลังงานเพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานในมหาวิทยาลัย มีสถานีอัดประจุไฟฟ้ารถยนต์แบบ Normal Charge และแบบจ่ายพลังงานกลับเข้ามาในระบบไฟฟ้า (V2G) พร้อมทั้งดัดแปลงรถยนต์ขนส่งนักศึกษาที่ใช้น้ำมันในมหาวิทยาลัยให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ปรับปรุงไฟถนนให้เป็น Smart Street Light เพื่อให้เกิดองค์รวมของ Smart Campus และสนับสนุนแผนนโยบาย Net Zero ของมหาวิทยาลัย โดยสัญญาฯ ฉบับนี้มีอายุสัญญา 15 ปี มีมูลค่าสัญญารวม 117 ล้านบาท หลังจากนั้น กฟผ. จะทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ครบกำหนด ทั้งนี้ มร.ชม. จะสามารถประหยัดพลังงานประมาณ 110 ล้านบาท