เอไอเอสยกระดับเน็ตบ้าน 2Gbps ผ่าน LAN ด้วย High Performance เราท์เตอร์

i & Tech

AIS Fibre สร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพและบริการมาตรฐานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมพลิกโฉมวงการเน็ตบ้าน ด้วยนวัตกรรมล่าสุด High Performance เราท์เตอร์ ความเร็วระดับ 2Gbps ได้เต็มๆ ครั้งแรกในไทย! มาพร้อมเราท์เตอร์ AI กับ WiFi อัจฉริยะ

            นายธนิตย์  ชัยยะบุญธนิตย์  รักษาการกรรมการผู้จัดการธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า “เป้าหมายการทำงานของ AIS Fibre ยังคงเน้นไปที่การพัฒนาเน็ตบ้านคุณภาพด้วยการเป็นผู้นำที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมมาโดยตลอด ทั้งการเป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทยที่ทำความเร็วเน็ตบ้านได้ถึง 2Gbps ซึ่งได้เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หรือแม้แต่การนำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าด้วยการส่งมอบเครือข่าย Wi-Fi อัจฉริยะภายในบ้านเป็นรายแรก ส่งผลทำให้เราได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการ และเป็น 1 ใน Top of Mind Brand ของเน็ตบ้าน ในฐานะผู้ให้บริการเน็ตบ้านที่ดีที่สุด โดยมีรายได้ในไตรมาส 2 เติบโตถึง 22 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมที่เติบโตประมาณ 10 % ทำให้ปัจจุบัน AIS Fibre มีฐานลูกค้าอยู่ 1.97 ล้านราย ทั้งนี้แม้ตลาดเน็ตบ้านจะมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่หนึ่งในปัจจัยที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ คือ ความมั่นใจในคุณภาพบริการมาตรฐานเอไอเอส และเป็นผู้นำการนำนวัตกรรมที่โดดเด่น แตกต่างจากรายอื่นในตลาดมามอบให้ก่อนใครเสมอ”

           นายธนิตย์ กล่าวย้ำว่า ดังนั้นเราจึงโฟกัสที่คุณภาพเป็นหัวใจหลัก และสร้างความต่อเนื่องหลังจากที่ประสบความสำเร็จในฐานะรายแรกของผู้ให้บริการเน็ตบ้านที่พร้อมดูแลและติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมง จนถึงวันนี้เราจึงขยายความเชื่อมั่นเพิ่มเติม ในการส่งมอบความเป็นเลิศด้านบริการ ด้วยทีมงานคุณภาพทุกภาคส่วนของ AIS Fibre ที่มากับแนวคิด “AIS Fibre ทีมที่เรามั่นใจ เน็ตบ้านที่คุณมั่นใจ 24 ชั่วโมง” โดยต้องการสื่อสารว่าทีมงานทั้งหมด ทุกแผนกของ AIS Fibre พร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน ในทุกขั้นตอนการทำงานอย่างดีที่สุด เริ่มตั้งแต่ทีมช่างที่พร้อมสำรวจ ติดตั้ง ดูแลให้สามารถใช้งาน Wi-Fi ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้านจริงๆ รวมไปถึงทีม Maintenance ที่พร้อมรับมือกับปัญหาในทุกสถานการณ์,  ทีม Call Center ที่พร้อมเคียงข้าง ให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง, ทีมวิศวกรที่คอยเฝ้าระวังสัญญาณอินเทอร์เน็ตบ้านของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าใช้งาน Online ได้อย่างไม่สะดุด นอกจากนี้เรายังนำทุกความต้องการของลูกค้ามาพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า AIS Fibre เท่านั้น

           ล่าสุดเอไอเอสได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกในไทย ประกอบด้วย

           • High Performance เราท์เตอร์ AX5400 Port LAN 2.5Gbps ครั้งแรกในไทย ที่ลูกค้าสามารถใช้งานผ่าน LAN กับความเร็วระดับ 2Gbps แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ เพิ่ม โดยมอบแพ็กเกจและอุปกรณ์กระจายสัญญาณภายในบ้าน ให้รองรับและมีประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับการงาน เพียง 1,399 บาท/เดือน

           • WiFi อัจฉริยะ ครั้งแรกในไทยที่เน็ตบ้านนำศักยภาพของ AI มาคัดแยกประเภทข้อมูลบริการ เพื่อจัดลำดับความหนาแน่นของการใช้งานภายในบ้าน ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าในเรื่องความแรง ลดความหน่วงต่ำ ในแอปพลิเคชันที่หลากหลายกับกลุ่ม Gamer, กลุ่มที่ใช้งาน WFH/ LFH หรือกลุ่มที่ทำ Live ขายของออนไลน์ต่างๆ

           • MESH WiFi ที่ทีมช่างติดตั้ง จะสามารถตรวจสอบพื้นที่ ตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ เชื่อมโยงการใช้งานทุกจุดให้เป็นเสมือนเครือข่ายเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ สามารถกระจายสัญญาณให้เร็ว แรง และครอบคลุมสม่ำเสมอทั่วทุกมุมในบ้าน โดยไม่ต้องเดินสายเพิ่ม หมดปัญหาจุดอับสัญญาณ ทำให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตบ้านได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม

           นายธนิตย์ กล่าวอีกว่า “ เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า คือ ปรัชญาที่พวกเราใช้เป็นแนวคิดในการทำงานมาโดยตลอด ทำให้ที่ผ่านมาเราได้เป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเน็ตบ้านอยู่เสมอ ทั้งการส่งนวัตกรรมใหม่ด้วยการพัฒนาคุณภาพของสัญญาณโครงข่าย รวมถึงยกระดับการให้บริการลูกค้าที่แตกต่างและเหนือกว่า ด้วยความพร้อมในการดูแลลูกค้าที่มั่นใจได้ 24 ชั่วโมงได้ ซึ่งเราทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ One Time แต่คือ All the Time ที่มากกว่าเรื่องของการติดตั้ง และการแก้ไขปัญหา เสมือนหนึ่งลูกค้าจะได้ทั้งทีม AIS Fibre, ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน, ทีมงานขาย, พนักงาน Call Center, พนักงานหน้าร้าน, ทีมงานติดตั้ง, ทีมงาน support รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เราพร้อมดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถขยายลูกค้าให้ได้  2.2 ล้านราย ภายในสิ้นปี”

           สำหรับเทรนด์การใช้งานเน็ตบ้าน นายธนิตย์ กล่าวว่า  จากการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคเริ่มเกิดโควิด จนมาถึงปัจจุบันที่โควิดกำลังจะผ่านไป  พบว่าปริมาณการใช้งานไม่ต่างกัน สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ยังคงทำงานทั้งที่บ้านและสำนักงาน โดยมีปริมาณการใช้เน็ตบ้านสูงกว่าช่วงก่อนที่จะมีโควิดประมาณ 30 %  และเปลี่ยนจากการดาวน์โหลดเป็นส่วนใหญ่มาเป็นการอัพโหลด หรือสตรีมมิ่งมากขึ้น