กระทรวงดีอีเอส โดยดีป้านำดิจิทัลสตาร์ทอัพเข้าพบนายกรัฐมนตรี พร้อมนำเสนอผลงานบริการดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้น รองรับภาคธุรกิจ และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ด้วยเทคโนโลยี 5G
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) พร้อมทีมงานนำ บริษัท อินโฟเฟด จำกัด (Infofed) และบริษัท เอ็นเนอร์จี้ เรสปอนด์ จำกัด (ENRES) เครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยร่วมออกบูธนิทรรศการเพื่อนำเสนอผลงานภายใต้แนวคิด “ยกระดับบริการดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G” แก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมบอกเล่าคุณสมบัติของบริการดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อรองรับภาคธุรกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนด้วยเทคโนโลยี 5G
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสัมมนาและอีเวนท์ที่ต้องนำระบบ Virtual Event มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยประเมินว่า Virtual Event จะเป็นชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ของภาคธุรกิจ เป็นจุดแข็งในการช่วยลดต้นทุนเวลา ค่าใช้จ่ายการเดินทางของผู้ร่วมงาน และไม่จำกัดสถานที่
ทั้งนี้ จึงนำ Infofed ผู้ให้บริการ Virtual Live Streaming ผ่านแพลตฟอร์ม VOOVAM (วู่วาม) รองรับการใช้งานทุกระบบ ทั้ง Zoom, Microsoft Team และ Cisco BlueJeans เข้าพบนายกรัฐมนตรี พร้อมนำเสนอบริการต่างๆ คือ Virtual Live Streaming Event การเชื่อมต่อกิจกรรมรูปแบบเดิมผ่าน Live Streaming สู่ Virtual Event ที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ พร้อมสร้างการเข้าถึงผู้เข้าชม Webinar บริการจัดสัมมนาออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบไร้ขีดจำกัดด้วยการให้บริการ Live Streaming แบบ End to End
อีกทั้งยังมี Virtual Press Conference บริการจัดแถลงข่าว Virtual Event แบบครบวงจรผ่านการนำเสนอด้วยเทคโนโลยี AR Virtual Commerce บริการเพิ่มยอดขายแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่านการเชื่อมต่อกับโซลูชันอีคอมเมิร์ซต่างๆ Virtual Learning การสนับสนุนการเรียนรู้ พร้อมเชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้แบบไร้ขีดจำกัด และ Internal Conferences การประชุมภายในองค์กรในรูปแบบ Virtual โดยสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้าได้กับทุกแพลตฟอร์มของธุรกิจ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเข้าถึงพนักงาน
ด้าน ดร.ณัฐพล กล่าวว่า ซึ่งอีกหนึ่งดิจิทัลสตาร์ทอัพที่จะได้รับผลดีจากความก้าวหน้าของ 5G คือ ENRES ผู้ให้บริการระบบวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพ และการใช้พลังงานอาคารอัตโนมัติ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT และ AI แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้รับทราบ มั่นใจ และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย Online Energy Monitoring การตรวจวัดปริมาณและแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าออนไลน์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเทคโนโลยี IoT แสดงผลและแจ้งเตือนคุณภาพการใช้พลังงาน และเหตุผิดปกติผ่านอีเมลและไลน์ Building Health Monitoring การวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพและการใช้พลังงานอาคารอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT และ AI สำหรับคุณภาพไฟฟ้า น้ำ อากาศ และ Digital Energy Solution ช่วยประหยัดพลังงานสำหรับระบบควบคุมความเร็วรอบ VSD ระบบทำน้ำเย็น และโซล่าเซลล์ที่สามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องจักรติดตาม ตรวจสอบผลประหยัด หาจุดเหมาะสมในการควบคุม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
“5G จะช่วยให้ราคาฮาร์ดแวร์ และระบบเชื่อมต่อต่างๆ ลดลง ในทางกลับกันจะสามารถประมวลผล และสั่งการได้เร็วขึ้น ที่สำคัญที่สุด 5G จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการดิจิทัลรูปแบบใหม่ ช่วยยกระดับบริการดิจิทัลไทยให้ก้าวหน้า เสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในเวทีระดับสากลได้ในที่สุด โดย ดีป้า ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC) เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศ และทดสอบนวัตกรรมดิจิทัล เป็นศูนย์กลางให้ผู้พัฒนาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศได้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนและพัฒนานวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน 5G พร้อมเป็นสถานที่ในการศึกษาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี 5G ซึ่งประเมินว่า ศูนย์ 5G EIC จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน สนองตอบนโยบายรัฐบาลด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป” ดร.ณัฐพลกล่าว