วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) คาดรายได้ปีนี้โต 12 % พร้อมรุกตลาดโซล่าเซลล์ มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 คันปีหน้า
นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้เติบโตที่ 12 % โดยลูกค้าในส่วนของเอนเตอร์ไพรส์และคอมเมอร์เชียลยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์ มีการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนสูง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเอกชน 60 % และภาครัฐประมาณ 40% ส่วนของตลาดต่างจังหวัดนั้น ตลาดการศึกษา โรงพยาบาล และเอกชนทั่วไปยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีหน้าบริษัทจะมีการเติบโตที่ 20-25 % เนื่องจากมีการทำ digital transformation และในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทีมงานเพื่อดูแลลูกค้าและตลาดมากขึ้น ทั้งด้านคอนซูเมอร์และเอนเตอร์ไพรส์
สำหรับนโยบายในการทำตลาดปีหน้า บริษัทมีแผนนำเสนอสินค้าใหม่ คือ โซล่าเซลล์ โดยจะขายผลิตภัณฑ์ inverter ของหัวเว่ย นอกจากนี้จะนำสินค้าระบบเน็ตเวิร์คที่มีราคาย่อมเยาเข้ามาทำตลาดเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับตลาดเอสเอ็มอี เช่น CCTV นอกจากนี้ยังมีการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซต์ EV เข้ามาทำตลาดมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดีจากภาครัฐ คาดว่าปีหน้าน่าจะเป็นปีทองของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งที่บริษัทจัดจำหน่ายคือยี่ห้อ Kavallo และ Super Soco ผลิตในไทย โดยเป็นเทคโนโลยีของประเทศออสเตรเลีย เน้นจำหน่ายให้หน่วยงานต่างๆ ในปีนี้บริษัทมียอดขายประมาณ 500 คัน ปีหน้าตั้งเป้ายอดขายที่ 3,000 คัน จากตลาดรวมมอเตอร์ไซค์ EV ที่จดทะเบียนในตลาดไทยซึ่งมีประมาณ 6,000 คัน
“เรามีแผนจะเปิดศูนย์บริการที่แถวถนนร่มเกล้า และทยอยกระจายไปอีก 10 จังหวัด เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ เพราะศูนย์บริการของเราจะมีอะไหล่ให้ครบทุกชิ้นพร้อมเสมอ เรามีสถาบันการเงินมาช่วยรองรับให้ลูกค้าที่ซื้อจากเราสามารถซื้อผ่อนได้ คือกรุงศรีออโต้และ KBank สามารถเสียภาษี จดทะเบียนป้ายขาว วิ่งบนท้องถนนได้ ทำประกันภัยได้ตามปกติ”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ดูแลรับผิดชอบสำนักงานสาขาที่ CLM คือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ขายเฉพาะสินค้าเอนเตอร์ไพรส์เท่านั้น โดยได้รับสิทธิ์จากเวนเดอร์ให้เป็นผู้ขายใน 3 ประเทศนี้แต่เพียงผู้เดียว ในส่วนของพม่าหลังจากที่มีการปฏิวัติและทำให้สถานการณ์ตลาดลดลงนั้น บริษัทฯไม่มีการปลดพนักงานที่พม่าแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากปฏิวัติ 6 เดือน ตลาดกลับดีขึ้นเกินกว่าที่คาดไว้ และคาดว่าสถานการณ์ปีหน้าจะดีมากขึ้น บริษัทมีแผนที่จะบุกตลาดพม่าอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่สาขากัมพูชา มีพนักงานอยู่กว่า 30 คน การเติบโตของตลาดยังมีอย่างต่อเนื่อง ปีหน้าคาดว่าจะโตประมาณ 20 % โดยสินค้าที่ขายดีมากในตลาด CLM คือ เน็ตเวิร์ค เช่น Cisco, server, storage, โซลูชันประเภท hyperconverged และ HCI, Huawei enterprise เนื่องจากประเทศในกลุ่ม CLM ต้องการสินค้าเพื่อปรับปรุงระบบต่างๆ
“อย่างไรก็ดี ในปีหน้า บริษัทฯ คาดว่าจะทำรายได้เติบโตที่ single digit โดยมีแผนการลงทุนในระบบไอทีของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 10 % เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับส่วนการลงทุนในส่วนของไอที เราต้องปรับปรุงตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นคงอยู่ลำบาก นับเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งขององค์กรที่จำเป็นต้องทำ” นายสมศักดิ์ กล่าว