เอ็นทีที พร้อมให้บริการเชื่อมต่อโครงข่ายที่เหนือชั้นกว่าเพื่อเชื่อมโยงศูนย์ข้อมูล Bangkok 2 Data Center ไปทั่วโลก รองรับการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลในพื้นที่ EEC
บริษัท เอ็นทีที จำกัด (NTT Ltd.) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ประกาศยุทธศาสตร์การให้บริการศูนย์ข้อมูล “Bangkok 2 Data Center” เพื่อยกระดับการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (Eastern Economic Corridor: EEC) ภายใต้แผนดังกล่าว เอ็นทีที จะขยายการเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูล Bangkok 2 Data Center จากทั่วโลกเพื่อส่งมอบการเชื่อมโยงที่ราบรื่นไปยังผู้ให้บริการคลาวด์ทั่วโลกผ่านโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายของเอ็นทีที
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที จำกัด ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า เราตระหนักถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเอาท์ซอร์สด้านไอซีทีในอุตสาหกรรมกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการใช้บริการศูนย์ข้อมูลที่เชื่อมต่อระหว่างกันในขั้นสูงและการบริหารจัดการที่ครบวงจรเพิ่มสูงขึ้น เอ็นทีที จึงได้วางแผนยกระดับการให้บริการศูนย์ข้อมูล Bangkok 2 Data Center ที่จังหวัดชลบุรี ให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อข้อมูลในระดับประเทศ ซึ่งพร้อมให้บริการลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ให้บริการด้านคอนเทนท์ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
“โดยในประเทศไทยเราจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลเพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซี ซึ่งได้สร้างพื้นที่การให้บริการในเฟส 3 เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในรูปแบบ high density data center ด้วยพื้นที่ขนาด 1,200 ตารางเมตร กำลังไฟฟ้า 2,000 กิโลวัตต์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบวงจรใน Bangkok 2 Data Center ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ อีอีซี และได้เตรียมวางแผนขึ้นเฟส 4 ภายในปีหน้า นอกจากนี้เราได้วางแผนตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดย่อยในรูปแบบ Edge Data Center โดยติดตั้ง Network Node เพื่อทำการเชื่อมต่อข้อมูลกับ Bangkok 2 Data Center เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในเขตพื้นที่อีอีซี ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่ง Edge Data Center จะเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีและบนเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
สำหรับ Bangkok 2 Data Center ได้รับมาตรฐานบริการและความปลอดภัยในระดับสากล รวมถึงผ่านการรับรองมาตรฐานการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล (ISO 27001) มาตรฐานสำหรับศูนย์ข้อมูลเพื่อความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศจากการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (PCI DSS) และ รายงานผลการรับรองเกี่ยวกับการควบคุมการให้บริการในองค์กร (SOC) ทำให้มั่นใจได้ถึงศักยภาพที่พร้อมรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายและข้อมูลขนาดใหญ่ขององค์กรธุรกิจ
ทั้งนี้เอ็นทีที พร้อมผลักดันธุรกิจสู่การสื่อสารแบบไร้รอยต่อ ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในทุกอุตสาหกรรม ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็นประสิทธิภาพสูง สามารถรองรับกำลังไฟฟ้าต่อหนึ่งตู้แร็คได้สูงถึง 20 กิโลวัตต์หรือมากกว่า เช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับประมวลผลด้านกราฟฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) ด้วยระบบไฟฟ้าสำรองจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบ 2N ในรูปแบบ Active-Active ซึ่งสามารถรับประกันการจ่ายไฟฟ้า SLA 100% พร้อมทั้งเปิดกว้างในการเชื่อมต่อผู้ให้บริการเครือข่ายทุกรายได้อย่างเสรี (Carrier-neutral) เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.hello.global.ntt