Guardforce AI Group ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ผู้ให้บริการ “บริหารจัดการเงินสดแบบเบ็ดเสร็จ” ส่ง GDM เครื่องเก็บเงินสดดิจิทัล มีประกันคุ้มครองวงเงินนำฝาก 100 % พร้อมโชว์ธุรกิจใหม่ “ หุ่นยนต์เพื่อการบริการ” หวังโกยลูกค้าธุรกิจ “ค้าปลีก-SMEs” ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023
วันนี้ (23 พ.ค.66) ที่งาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี Guardforce AI Group ผู้ให้บริการ “บริหารจัดการเงินสดแบบเบ็ดเสร็จ” ได้ออกบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของธุรกิจจัดการเงินสด และนวัตกรรมหุ่นยนต์ โดย นายเกาะ วิง จวือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีเอฟเอไอ โรบอททิก อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า GFAI Group เริ่มต้นจากบริษัทรักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2525 (ค.ศ. 1982) ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 42 ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งและบริหารจัดการเงินสดเจ้าแรกในประเทศไทย และยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยจำนวนบุคลากรและทรัพยากรที่พร้อมให้บริการมากที่สุดใน 21 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่บริการทั่วประเทศไทย
โดยในปีที่ผ่านมา Guardforce AI Group ได้ขยายขอบเขตการให้บริการโดยก่อตั้งบริษัท จีเอฟเอไอ อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นเพื่อให้บริการด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ โดยจัดจำหน่ายหุ่นยนต์เพื่อการบริการหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ธุรกิจค้าปลีกได้อย่างครอบคลุม ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทได้ขยายสาขาไปอีกหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ จีน มาเลเซีย ฮ่องกง และมาเก๊า พร้อมทั้งนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กที่สหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ “GFAI, GFAIW”
“ การออกบูธในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ถือเป็นครั้งแรกที่ Guardforce AI Group ได้นำสินค้ามาจัดแสดงทั้งในส่วนของธุรกิจจัดการเงินสด และนวัตกรรมหุ่นยนต์ โดยธุรกิจการจัดการเงินสด เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ “บริหารจัดการเงินสดแบบเบ็ดเสร็จ” บริษัทได้นำ การ์ดฟอร์ซ ดิจิตัล แมชชีน หรือ GDM (จีดีเอ็ม) ซึ่งเป็นเครื่องเก็บเงินสดดิจิทัลที่มาพร้อมประกันคุ้มครองวงเงินนำฝาก 100 % ตั้งแต่หย่อนเงินลงเครื่อง โดยได้ออกแบบตัวเครื่องและฟังก์ชั่นความปลอดภัยมาเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ร้านค้า คาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจต่างๆ เจ้าของกิจการ หรือผู้จัดการสามารถตรวจสอบยอดเงินแบบเรียลไทม์ได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้แล้วยังมีบริการเข้ารับ/ขนส่งเงินสด บริการคัดนับและนำฝากเข้าบัญชีของลูกค้า ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามสโลแกน End-to-End Cash Management Solutions”
สำหรับนวัตกรรมหุ่นยนต์ “ คุณวราภรณ์ ศิริกุลชยานนท์ ” รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีเอฟเอไอ โรบอททิก อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้นำมาหุ่นยนต์มาจัดแสดงใน 3 โมเดลด้วยกัน ซึ่งในหนึ่งธุรกิจสามารถใช้ได้ทั้ง 3 โมเดล เริ่มจากโมเดลแรกคือ หุ่นยนต์ต้อนรับ T1 (ทีวัน) ซึ่งเหมาะกับการตั้งบริเวณด้านหน้า ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของธุรกิจ เมนูอาหาร ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่หรือโปรโมชั่นต่างๆ อีกทั้งยังมีระบบจดจำใบหน้าและ ID Card พร้อมกล้องอัจฉริยะที่สามารถยืนยันตัวบุคคลหรือพนักงานสำหรับผ่านเข้าประตู พร้อมการจัดเก็บข้อมูลการตอกบัตรเข้าออกของพนักงาน และระบบการจัดการข้อมูลแขก/ลูกค้าและการนัดหมาย/การจอง
โมเดลต่อมาคือ หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร Deli (เดลิ) หรือ delivery ซึ่งนอกจากใช้ในการเสิร์ฟอาหารแล้วยังสามารถนำไปปรับใช้ในสำนักงานหรือองค์กรเพื่อช่วยเรื่องของการรับ/ส่งเอกสารหรือสินค้า เช่น โรงพยาบาลได้นำไปปรับใช้ในการส่งยาให้กับคนไข้ และโมเดลสุดท้าย คือ หุ่นยนต์พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ Hygiene (ไฮยีน) ที่สามารถเดินพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อได้ทั่วบริเวณ สามารถนำไปปรับใช้ในสปาหรือโรงแรม โดยการใส่น้ำมันหอมระเหย/น้ำมันอโรม่า เพื่อสร้างบรรยากาศของสถานที่ได้ตามต้องการอีกด้วย
“ จุดเด่นของบริการนวัตกรรมหุ่นยนต์ของจีเอฟเอไอ คือ เรื่องของคุณภาพและบริการหลังการขาย ซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเอง และมีศูนย์บริการมากถึง 21 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันให้บริการทั้งแบบเช่าใช้ ซึ่งมีประมาณ 60 % และแบบซื้อขาด ประมาณ 40 % โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 40 % เป็นร้านอาหาร ขณะที่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจมีประมาณ 30 % ในปีที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายหุ่นยนต์บริการประมาณ 500 ตัว คาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตประมาณ 20 % อย่างไรก็ดีมองว่าปัจจุบันหุ่นยนต์ได้รับการยอมรับจากตลาดในประเทศไทยมากขึ้น แม้หุ่นยนต์จะยังไม่สามารถทดแทนแรงงานมนุษย์ได้ 100 % แต่การใช้หุ่นยนต์สามารถจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ เช่น ค่าสวัสดิการพนักงานได้”
นายเกาะ วิง จวือ กล่าวว่า การ์ดฟอร์ซ เอไอ กรุ๊ป ได้รับการยอมรับในด้านบริการรักษาความปลอดภัยและหุ่นยนต์บริการในระดับโลก โดยมีบุคลากรและศูนย์บริการพร้อมให้บริการลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ซึ่งเป้าหมายหลักของบริษัทในงานนี้คือกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ต้องการความสะดวกและความปลอดภัยในการดำเนินงานรายวัน และเฉพาะงานนี้ ได้มีการจัดโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ! มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท ในส่วนของหุ่นยนต์บริการสำหรับลูกค้าอีกด้วย
“ส่วนผลประกอบการของกลุ่มบริษัทการ์ดฟอร์ซเอไอ ในประเทศไทยในปีผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบจากช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 เป็นอย่างมาก เนื่องจากลูกค้าอยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมโรคเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีนั่นก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของ จีเอฟเอไอ อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมหุ่นยนต์เข้ามาให้บริการและสามารถตอบโจทย์กับสภาวะของสังคมและธุรกิจในขณะนั้นได้อย่างดีเยี่ยม ดังที่จะเห็นหุ่นยนต์ T1 ที่สามารถนำไปทำหน้าที่ในการตรวจวัดอุณหภูมิอยู่ตามห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันทั้งสองธุรกิจอยู่ในแนวโน้มที่ดีโดย จีเอฟเอไอ โรบอททิก อินโนเวชั่นแอนด์โซลูชั่น มีการเติบโตขึ้น 20 % ขณะที่การ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ เริ่มกลับสู่จำนวนงานตามปกติ และมากยิ่งขึ้นด้วยการชนะการประมูลเป็นผู้ให้บริการศูนย์เงินสดกลางของธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) จำนวน 4 ศูนย์ ได้แก่ ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดรธานี และพิษณุโลก”
อย่างไรก็ตาม Guardforce AI Group ยังมองเห็นโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก สำหรับธุรกิจหุ่นยนต์บริการในประเทศไทย เพราะด้วยเทรนด์ของโลกที่เปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ จีเอฟเอไอก็จะไม่หยุดพัฒนาหุ่นยนต์และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาสู่ท้องตลาด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ส่วนของการ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ แม้ว่าเทรนด์การใช้เงินสดจะลดลง แต่ยังคงมีความจำเป็นมากต่อสังคมในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการอย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ พร้อม ๆ กับการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และนำเสนอโซลูชั่น ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น