ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดตัวโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชนกว่า 7 ภาคี มุ่งเป้าเสริมการจ้างงานให้คนไทย 250,000 ภายใน 1 ปี
วันนี้(15 ธันวาคม 2563X บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยูเนสโก จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) และมูลนิธิกองทุนไทย เปิดตัว “โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน” มุ่งยกระดับคุณภาพแรงงานผ่านทักษะเชิงดิจิทัลแก่แรงงานไทยทั่วประเทศที่ จำนวน 250,000 คน ผ่านทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ภายในตุลาคม พ.ศ.2564
ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้พนักงาน ลูกจ้าง และประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบด้านการทำงาน รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่งปี พ.ศ. 2563 โดยสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.03 หรือมีผู้ว่างงานเกือบ 400,000คน และคาดว่าในปีนี้จะมีแรงงานที่เสี่ยงถูกเลิกจ้างจำนวน 8.4 ล้านคน จากแรงงาน 3 กลุ่ม ได้แก่ แรงงานในภาคการท่องเที่ยวซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 2.5 ล้านคน แรงงานในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 1.5 ล้านคน และการจ้างงานในภาคบริการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาคการท่องเที่ยวและได้รับผลกระทบจากการที่สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ถูกปิด อีกจำนวน 4.4 ล้านคน ในขณะที่เด็กจบใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน 5.2 แสนคนก็มีแนวโน้มต้องเผชิญกับอุปสรรคในการหางานตั้งแต่การเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดงาน
นอกจากนี้ รายงานผลการศึกษาโดย AlphaBeta strategy x economics ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เกี่ยวกับผลกระทบต่อการจ้างงานของการระบาดของเชื้อโควิด–19 ที่มีต่อประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค ระบุว่าในประเทศไทย มีการคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรม การบริการส่วนบุคคล และการขนส่ง จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตดังกล่าว และการนำ AI มาใช้อาจเพิ่มศักยภาพในการฟื้นตัวและกระตุ้นอัตรากำไรของภาคเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5-6
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์ในปีนี้คาดว่าจะมีกลุ่มงานที่หายไป และการจ้างงานใหม่จะเป็นการมองหาแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางการใช้ทักษะดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ไมโครซอฟท์ มุ่งมั่นในการนำดิจิทัลเข้ามาเสริมทักษะให้กับทุกคน ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทักษะดิจิทัลที่ใช้งานได้จริงและเพิ่มมูลค่าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมปรับตัวรับงานใหม่ๆ และสามารถนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการเพิ่มโอกาสด้านการจ้างงานในอนาคต ผมเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะดิจิทัลในการจ้างงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และจะเติมเต็มความตั้งใจของเรากับเส้นทางการสร้างทักษะทางแรงงานด้วยการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลให้กับคนไทยกว่า 10 ล้านคนได้โดยเร็วที่สุด”
สำหรับโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือ ระหว่างไมโครซอฟท์และพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนการดำเนินโครงการผ่านองค์ความรู้ ทรัพยากร และการสนับสนุนอื่นๆ ที่มีความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการจะสามารถเข้าถึงผู้คนทุกกลุ่มที่ต้องการเสริมทักษะดิจิทัลเพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงานและมอบความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
โดยแต่ละองค์กรที่เป็นพันธมิตรใน “โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน” มีบทบาทสำคัญ ดังนี้ ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จะจัดทำเนื้อหาการฝึกอบรม จัดทำวีดีโอการอบรม และคู่มือภาษาไทยเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อจัดฝึกอบรมแก่วิทยากรจากหน่วยงานพันธมิตร พร้อมจัดการติวสอบ Microsoft Office Specialist สาขา Microsoft Excel เพื่อเป็นการปูทางไปสู่สายงานด้านนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ต่อไป
ส่วนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ได้ผ่านเครือข่ายและแพลตฟอร์มของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เช่น https://www.digitalskill.org/ เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาทักษะดิจิทัลตามมาตรฐานสมรรถนะด้านดิจิทัล รวมถึงเปิดพื้นที่ส่งเสริมการจ้างงานผ่านคอมมูนิตี้ JobD2U ที่จะเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ตำแหน่งงาน และ โปรไฟล์คนหางาน เพื่อให้ “คนที่ใช่” ได้พบกับ “งานที่ชอบ”
ด้านกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมมือกับไมโครซอฟท์เพื่อจัดฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัลแก่บุคลากรของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือกศน.ดำเนินการร่วมกับไมโครซอฟท์ในการจัดการฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัลแก่ครูของสำนักงาน กศน. เพื่อส่งต่อทักษะความรู้ดังกล่าวให้แก่กลุ่มเป้าหมายราว 186,000 คน ผ่าน กศน.ตำบล 7,424 ศูนย์ทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนให้เนื้อหาการฝึกอบรมที่จัดทำขึ้นในโครงการสามารถไปถึงประชาชน ผ่านเครือข่ายและแพลตฟอร์มของ สำนักงาน กศน.
สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สนับสนุนให้มีการรับรองสมรรถนะด้านการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) จ๊อบส์ ดีบี (JobsDB) ดำเนินการจัดการอบรมการเตรียมความพร้อมก่อนสมัครงาน แนวโน้มการจ้างงานในอนาคต และ การทำเรซูเม่ให้โดดเด่น รวมถึงรับคำแนะนำให้ผู้เข้ารับการอบรมในโครงการลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม JobsDB.com เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงโปรไฟล์ของผู้หางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประสานความร่วมมือกับศูนย์ กศน. ในการจัดการฝึกอบรมครูของทางศูนย์ฯ พร้อมสนับสนุนให้เนื้อหาการฝึกอบรมที่จัดทำขึ้นในโครงการสามารถเข้าถึงเยาวชนที่อยู่ห่างไกลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม www.lll-olc.net ของยูเนสโก และมูลนิธิกองทุนไทย บริหารจัดการโครงการ ประสานงานกับทุกองค์กร และติดตามวัดผลโครงการ พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าจากผู้ได้รับการจ้างงาน และร่วมกันประชาสัมพันธ์โครงการ
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน) สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักพัฒนาฝีมือแรงงานใกล้บ้าน และเรียนผ่านออนไลน์ได้จากเว็บไซต์ของพันธมิตรในโครงการดังกล่าวข้างต้น