ผู้แทนประเทศญี่ปุ่นร่วมหารือ วว. พร้อมนำเสนอรายงานผลการศึกษาโครงการการจัดการยานยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน เพื่อลดปริมาณของเสียจากยานยนต์ หวังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการคำนึงถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ หรือCarbon Neutrality
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้การต้อนรับ Ms.Yumi Numajiri ผู้ช่วยทูตพาณิชย์ และคณะผู้แทน จากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสที่ฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอรายงานผลการศึกษาเรื่อง End-of-Life Vehicle (ELV) Circular System Project in Thailand และร่างแผนการจัดฝึกอบรม ณ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ในการนี้คณะผู้บริหาร วว. และนักวิจัยร่วมให้การต้อนรับ ประกอบด้วย ดร.ประทีป วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดร.บุณณนิดา โสดา ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ ดร.เรวดี อนุวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญวิจัย และ น.ส.นลินธรณ์ สุวพรจารุวัชร์ นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ทดสอบมาตรฐานระบบขนส่งทางราง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องประชุม กวท. ชั้น 8 อาคาร RD 1 วว.เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี
สำหรับโครงการ End-of-Life Vehicle (ELV) Circular System Project in Thailand เป็นโครงการการจัดการยานยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน เพื่อลดปริมาณของเสียจากยานยนต์ มีการบำบัดซากยานยนต์อย่างถูกวิธีและนำชิ้นส่วนยานยนต์กลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้ตามสัดส่วนที่กำหนด ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีระบบจัดการซากรถยนต์ที่เป็นทางการ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยให้ความสนใจและได้ทำการศึกษาข้อมูลร่วมกัน
โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการคำนึงถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ (Carbon Neutrality) ภายใต้นโยบายโมเดลเศรษฐกิจ BCG Economy Model ของประเทศไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด กระจายโอกาส กระจายรายได้ และนำความมั่งคั่งไปสู่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง นำพาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศรายได้สูง และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ประกอบด้วย 3 เศรษฐกิจหลัก คือ B- Bio Economy ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า เชื่อมโยงกับ C- Circular Economy ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 เศรษฐกิจนี้ อยู่ภายใต้ G – Green Economy ระบบเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน และ นโยบาย Green Growth Strategy ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนโยบายด้านอุตสาหกรรมที่มุ่งสร้างวัฏจักรเชิงบวกของการเติบโตทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมร่วมกับธุรกิจชุมชน โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนความพยายามของภาคส่วนต่างๆ ต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์