กลับมาอีกครั้ง! กับเวทีนำเสนอผลงานวิจัยไทยระดับชาติ “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566” โดย วช. ร่วมกับเครือข่ายระบบวิจัยทั่วประเทศจัดขึ้นเป็นปีที่ 18 พร้อมโชว์ผลงานวิจัยที่โดดเด่นแห่งปี กว่า 1,000 ผลงาน หวังเป็นเวทีเชื่อมโยงงานวิจัยให้ก้าวไกล และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
วันนี้ (24 กรกฎาคม 2566) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัย จัดแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 ( Thailand Research Expo 2023 )” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 22-23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ภายใต้แนวคิดหลัก “ วิจัยไทยก้าวไกล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน” โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น.
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ในบทบาทของการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพไปสู่กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ในวงกว้าง จึงได้จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ” ขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 เพื่อเป็นเวทีระดับชาติในการนำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีศักยภาพพร้อมใช้ประโยชน์ และขับเคลื่อนให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ และกระจายโอกาสในการเข้าถึงฐานข้อมูลความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีการบูรณาการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างองค์กรและเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ สำหรับในปีนี้ วช. ได้จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566” หรือ “ Thailand Research Expo 2023 ” ขึ้น เป็นปีที่ 18 โดยจะมีการนำเสนอผลงานวิจัยกว่า 1,000 ผลงาน จากเครือข่ายระบบวิจัยร่วมจัดงาน กว่า 140 หน่วยงาน
“ความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัย ทั่วประเทศ และทุกภาคส่วนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการร่วมกันนำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาการผ่านผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ สามารถที่จะเชื่อมโยง การบูรณาการองค์ความรู้สู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ อีกยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดกลไกในการพัฒนาส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้พัฒนางานวิจัย ผู้สร้างองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรม สู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้าง การจัดงานดังกล่าวจึงถือว่าเป็นกลไกความร่วมมือที่มีความเข้มแข็งของหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัย ในการนำผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ รวมถึงการสนับสนุน การส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องที่จะนำสู่เป้าหมายในการพัฒนาขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ มนุษยศาสตร์”
สำหรับกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “วิศวกรสังคมและนวัตกรสังคม เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ยั่งยืน” โดยพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี “แก่นการพัฒนาประเทศบนพื้นฐาน SEP for SDGs” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และ “ บทบาทของการวิจัยและนวัตกรรมต่อขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศไทย” โดย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. นอกจากนี้ยังมีการประชุมสัมมนา กว่า 100 หัวข้อ ที่มีประเด็นที่น่าสนใจทั้งเรื่องของการบริหารจัดการงานวิจัย ปัญหาสำคัญของประเทศ และเรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจของสังคม อาทิ ทิศทางการลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน , การยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์:ชุมชนเข้มแข็งและมาตรฐานผลิตภัณฑ์, CEO Forum for Net Zero รวมถึงการนำเสนอบทความผลงานวิจัย และการประชุมให้ความรู้ในช่วง Twilight Program
พลาดไม่ได้… คือ ภาคนิทรรศการที่น่าสนใจ อย่างเช่น นิทรรศการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย” และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่องานวิจัยไทย และการนำเสนอนิทรรศการผลงานวิจัยจากหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัย ซึ่งมีการนำเสนอผลงานภายใต้ 6 Theme สำคัญ ได้แก่ 1) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ครอบคลุมงานวิจัยฯที่เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว สู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมายคือ เกษตรและอาหาร พลังงานและเคมีชีวภาพ สุขภาพและการแพทย์ และการท่องเที่ยวและบริการ 2) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมงานวิจัยฯ ที่เกี่ยวกับ การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ บริการดิจิทัล รวมทั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ การพัฒนาประตูการค้าการลงทุน ศูนย์กลางคมนาคมระบบโลจิสติกส์และระบบราง การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาธุรกิจฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่(IDEs)
3) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ครอบคลุมงานวิจัยฯ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยใน15 สาขา เช่น งานฝีมือและหัตถกรรม ดนตรี การแสดง ภาพยนตร์ ซอฟต์แวร์ แฟชั่น อาหารไทย การแพทย์แผนไทยและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 4) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับสังคมอย่างยั่งยืน ครอบคลุมงานวิจัยฯ ที่เกี่ยวกับ การพัฒนาสังคมสูงวัย การพัฒนาคนทุกช่วงวัย การผลิตกำลังคนที่มีสมรรถนะสูง สังคมไทยไร้ความรุนแรง การคุ้มครองแรงงานไทย การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น และการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัยสนับสนุนการสร้างสุขภาวะที่ดี 5) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ครอบคลุมงานวิจัยฯ ที่เกี่ยวกับ สังคมคาร์บอนต่ำ การลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะ และ 6) งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพของชุมชน ครอบคลุมงานวิจัยฯ ที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงนโยบาย ชุมชนสังคม และเชิงพาณิชย์ผ่านรูปแบบและกลไกต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา นิทรรศการนำเสนอบทความผลงานวิจัย การจัดกิจกรรม Highlight Stage ซึ่งเป็นเวทีหลักที่ใช้เทคนิคการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีความพร้อมใช้ประโยชน์ กิจกรรมการให้คำปรึกษาเรื่องการวิจัย และการเจรจาธุรกิจ รวมถึงการมอบรางวัลมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 การประกวดนวัตกรรมสายอุดมศึกษา 2566 และการยกย่องเชิดชูเกียรติคุณนักวิจัย ทั้งศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น วช. และเมธีวิจัยอาวุโส วช.
สำหรับภายในงานแถลงข่าว ฯ ดร.วิภารัตน์ ได้ร่วมเสวนาในเวที “Thailand Research Expo Talk : เวทีรวมพลังวิจัยไทยก้าวไกล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน” ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนา อาทิ ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รศ.ดร.สุดเขตต์ นาคะเสถียร ประธานเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย : RUN รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ดร.เชาวลิต สิมสวย ผู้แทนประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และนายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีนี้ วช.ได้เปิดตัว “นายพิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร” ทูตวิจัยมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 ซึ่งจะเป็นตัวแทนพลังคนรุ่นใหม่ในการสื่อสารงานวิจัยให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
พร้อมกันนี้ภายในงานแถลงข่าว ฯ ยังได้มีการจัดแสดงตัวอย่างผลงานวิจัยไฮไลท์ เช่น การเปลี่ยนขยะเป็นกราฟีนมูลค่าสูง ผลงานต้นแบบจากทีมวิจัยสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ที่สามารถผลิตกราฟีนวัสดุแห่งอนาคตจากขยะชีวมวล ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากกว่า 1,000 เท่า หุ่นยนต์ล้างแผงโซล่าร์เซลล์ (Robotic Solar Cleaner) ผลงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เน้นการใช้งานง่าย โดยยึดติดกับแผงโซล่าร์เซลล์ สั่งงานได้ผ่านมือถือ
โครงการฟื้นฟูและต่อยอดผ้าลายอย่าง เอกลักษณ์ อยุธยา “จุฬาพัสตร์” สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ผลงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ที่ต่อยอดความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการฟื้นฟูและยกระดับลายผ้าโบราณให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความร่วมสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์จากมรดกภูมิปัญญาของชุมชน
การพัฒนามาตรฐานเพื่อรับรองคุณภาพ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากกัญชง : เฮมป์ครีตบล็อก และเฮมป์พาร์ทิเคิลบอร์ด จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ที่ผู้ทำ ผู้ใช้ นักวิชาการ และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ร่วมมือกันร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างเฮมป์ครีตบล็อกและเฮมป์ พาร์ทิเคิลบอร์ดจากแกนกัญชงขึ้น เพื่อผลักดันผลงานวิจัยเข้าสู่อุตสาหกรรมและสามารถผลิตแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์ และ การบริหารพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อย่างยั่งยืนภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งเป็นต้นแบบการเรียนรู้ ฟื้นฟูป่า สู่ธนาคารธรรมชาติ โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งชุมชน เพื่อรับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก
นอกจากนี้ยังมีการใช้ประโยชน์จากโปรตีนจิ้งหรีด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟังก์ชั่นนอลฟู้ด สูตรโปรตีนสูงไขมันต่ำ ระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะผสม ผลงานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ที่ช่วยให้หน่วยงานประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยสูงและการผลิตเครื่องปรุงรสจากปลาร้าด้วยเทคโนโลยีกล้าเชื้อจุลินทรีย์ ผลงานจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงที่สำคัญของอาหารไทย จากปลาน้ำจืดโดยกระบวนการหมักแบบธรรมชาติ
งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566” หรือ “Thailand Research Expo 2023” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2566 ที่ ห้องประชุมชั้น 22-23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.researchexpo.go.th