วันนี้ (9 พ.ย.2566) กลุ่มสามารถแจงรายได้ 9 เดือนแรก ปี 2566 จำนวนรวมทั้งสิ้น 7,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนถึง 1,205 ล้านบาท หรือสูงขึ้น 20 % ทั้งนี้เป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบินและการเดินทาง ตลอดจนการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นของโครงการหลัก เช่น Digital Trunked Radio, โครงการ Direct Coding และโครงการที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น ปัจจุบันกลุ่มบริษัทสามารถมีมูลค่างานในมือรวมกันราว 10,000 ล้านบาท
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปี 2566 ยังคงเป็นปีที่ท้าทาย แม้จะมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การเดินทาง และการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอีกมากที่เราต้องเผชิญ อาทิ งบประมาณภาครัฐที่ค่อนข้างจำกัด การลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัว ภาวะสงครามและความไม่สงบในต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้นภารกิจหลักของกลุ่มสามารถในช่วงที่ผ่านมา คือ
1.ขยายฐานลูกค้าและเทคโนโลยีในสายธุรกิจ Digital ICT Solutions โดยขยายโซลูชันและบริการไปสู่รัฐวิสาหกิจและเอกชนมากขึ้น อาทิ บริษัท พอร์ทัลเน็ท จำกัด ร่วมกับ IBM นำเสนอ “IBM Maximo” จนสามารถเซ็นสัญญาโครงการพัฒนาระบบงาน CMMS หรือ ระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุง จาก กฟน. มูลค่า 135 ล้านบาท นอกจากนี้ยังชูเทคโนโลยีในด้าน Security, Big Data, E-Document, ERP, โซลูชันสำหรับภาคการเงินและธนาคาร อีกทั้ง บมจ. สามารถเทลคอม ยังได้จับมือกับ PowerSchool ผู้ให้บริการ Digital Education Platform ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เพื่อรุกธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในประเทศไทย
2. ขยายธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและตรวจสอบ อาทิ โครงการ Direct Coding ซึ่งตอบโจทย์การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้แก่กรมสรรพสามิต โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากค่าบริการรวม 637 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาสที่ 4 จึงคาดว่าจะมีรายได้ทั้งปี จำนวน 900 ล้านบาทนอกจากนี้ บริษัท สามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด ในกลุ่มสามารถเทลคอม ก็ได้งานโครงการจัดหาระบบตรวจสอบสิ่งของสัมภาระที่ติดตัวผู้โดยสารกับกรมศุลกากร มูลค่า 373 ล้านบาท เป็นต้น
3. เร่งขยายฐานผู้ใช้บริการระบบสื่อสาร Digital Trunked Radio ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการรับรู้รายได้เดือนละประมาณ 30 ล้านบาท หลังจากการส่งมอบเครื่องโครงการมหาดไทยครบถ้วน และบริษัทได้ตั้งเป้าในการขยายฐานผู้ใช้บริการไปยังหน่วยงานอื่นๆ อาทิ การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่ดูแลความมั่นคง ความปลอดภัย และสาธารณสุข เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้อีกราว 30,000 รายในปีหน้า
4. เสริมความแข็งแกร่งและขยายโอกาสการเติบโตให้แก่สายงาน Utilities & Transportation อาทิ การนำ SAV หรือ บมจ. สามารถเอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ เข้าจดทะเบียนใน ตลท.เมื่อปลายเดือน ก.ย 2566 โดยมีการจ่ายปันผลแก่ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค ที่ผ่านมา จากรายได้ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ SAV ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา รวมจำนวน 1,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ SAV จึงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มสามารถ และมีความพร้อมในการขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ในสายธุรกิจ UTrans ยังประกอบด้วยธุรกิจออกแบบ ก่อสร้างสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงครบวงจรภายใต้บริษัท เทด้าและทรานเซ็ค ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้รวมกันกว่า 800 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือรวม 4,780 ล้านบาทในปัจจุบัน
“นอกจากภารกิจหลักข้างต้นแล้ว บริษัทยังเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานในอนาคต โดยเฉพาะงานที่เรามีประสบการณ์และความชำนาญเป็นทุนเดิมเช่น การติดตั้งระบบอุปกรณ์และการบริหารจัดการในสนามบิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การเดินทาง และพลังงาน เป็นต้น การก้าวสู่ยุคดิจิทัลนี้เป็นโอกาสของการขยายผลและต่อยอดธุรกิจ ผมจึงมั่นใจว่ากลุ่มสามารถมีโอกาสเติบโตได้อย่างมั่นคง ด้วยรายได้ประจำที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่รออยู่” นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย