“อนุทิน”ตรวจเยี่ยมกระทรวง อว.พร้อมประกาศข่าวดี TCAS 67 รอบแอดมิชชั่น สมัครเลือกคณะฟรี พร้อมหนุน อว.ให้เป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจ ด้านจิสด้าร่วมเสนอผลงาน ชูบทบาทสำคัญของการใช้ประโยชน์ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 ส่วน วว.ชูนวัตกรรมขับเคลื่อนเมืองคาร์บอนต่ำ
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยได้ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. พร้อมผู้บริหาร และบุคลากรให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน ได้เข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จากนั้นขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า EV (MuvMi) ที่ผลิตโดยคนไทยเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และลดการใช้พลังงานน้ำมันที่กระทรวง อว.ให้การสนับสนุนภาคเอกชนเพื่อมาชมนิทรรศการการจัดแสดงผลงานเด่นของหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง อว. ก่อนมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกระทรวง อว.
นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า ได้เน้นย้ำให้กระทรวง อว. ให้ความสำคัญในการตอบโจทย์ ความต้องการของประเทศ และของโลก และให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยดําเนินการภายใต้หลักการ “เอกชนนํา รัฐสนับสนุน” ที่สำคัญวาระเร่งด่วนที่กระทรวง อว. ต้องดำเนินการทันที คือ การลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยการให้กระทรวง อว. และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ปกครอง และนักเรียน ในการสมัครคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบการรับสมัครสอบกลาง ประจําปี 2567 หรือ “TCAS 67” ในรอบแอดมิชชั่น ซึ่งเป็นรอบที่มีนักเรียนจํานวนมากที่สุด กว่า 125,000 คนต่อปี เข้ามาสมัคร
“ผมขอประกาศข่าวดีว่ากระทรวง อว. และ ทปอ. จะนํางบประมาณมาอุดหนุนการสมัครในรอบแอดมิชชั่น โดยจะเริ่มตั้งแต่ “TCAS 67” ในเดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยให้นักเรียน แต่ละคน สามารถสมัครเลือกคณะ 1 – 10 อันดับได้ฟรี เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระได้สูงสุดคนละ 900 บาท ถือเป็นหนึ่งในความพยายามระยะสั้นในการลดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงการศึกษา ขณะที่รัฐบาลกําลังพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแรง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับเยาวชนไทย ได้มีทางเลือกในการศึกษา ในระดับอุดมศึกษามากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
ตนในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย กระทรวง อว. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมวิทยาศาสตร์ สังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งเหตุผล และ สังคมแห่งปัญญา โดยกระทรวง อว. มีองค์ความรู้มากมายที่พร้อมจะถ่ายทอดให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ แต่การถ่ายทอดนั้นยังเป็นไปอย่างจำกัด องค์ความรู้เหล่านั้นจึงอยู่ในกระทรวง แต่ไม่ได้รับการนำเสนอ และถ่ายทอดไปถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย อย่างทั่วถึง ดังนั้น กระทรวง อว. ต้องรับเป็นนโยบายให้ความสำคัญกับการเผยแพร่องค์ความรู้ ในรูปแบบ และช่องทางที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในภาพรวม
เมื่อครั้งที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองในการทำงานของกระทรวงให้เป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจเพราะความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนคือรากฐานที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวง อว. ก็เช่นกัน ภายใต้การนำของ รมว.ศุภมาส อิศรภักดี กระทรวง อว. จะก้าวสู่ความเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่จะเป็นเสาหลักทางปัญญา และนำพาโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ประชาชนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีฯ ในครั้งนี้ ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ได้ร่วมนำเสนอผลงานและชูบทบาทสำคัญของการใช้ประโยชน์ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 ต่อรองนายกรัฐมนตรีฯ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ข้อมูลฯ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น อาทิ การจัดการเมือง เพื่อลดความแออัดของเมืองใหญ่ๆ วางระบบผังเมืองให้เป็นระเบียบ, การใช้เทคโนโลยีจากดาวเทียมในการสำรวจและประเมินคาร์บอนเครดิต เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง และ การจัดการระบบจราจรในเขตเมือง รวมถึงการป้องกันและบรรเทาปัญหาไฟป่าหมอกควันและปัญหาน้ำท่วมให้กับทุกพื้นที่
ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับหน่วยงานระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติ รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
ด้านดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมต้อนรับและนำเสนอการดำเนินงานนวัตกรรมขับเคลื่อนเมืองคาร์บอนต่ำ ได้แก่ โครงการขับเคลื่อนงานวิจัยด้านไม้ดอกไม้ประดับ โครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร และโครงการศึกษาวิจัย พัฒนาการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์จิตอาสา เพื่อใช้ในการบำบัดของเสียและกำจัดเชื้อโรค