บราเดอร์บุกตลาดพริ้นเตอร์หลังโควิด-19 สวนกระแสลดใช้กระดาษ ชี้ตัวเลขกลุ่มเป้าหมายธุรกิจเกิดใหม่จำเป็นต้องใช้มีมากกว่าผลกระทบจากดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น พร้อมเปิดตัวพริ้นเตอร์ทีเดียว 11 รุ่น มากสุดในรอบ5ปี ทั้งเลเซอร์สีและขาวดำ ชูจุดเด่นประสิทธิภาพ ทนทาน ใช้งานง่ายและมีโซลูชั่นในการบริหารจัดการ
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการบริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อ 3 ปีที่มาจะทำให้เกิดความต้องการใช้งานพริ้นเตอร์เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องกำลังการผลิตไม่เพียงพอ บราเดอร์ได้ใช้เวลาในช่วงดังกล่าวศึกษาถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวและมีความต้องการในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการมากขึ้น ประกอบกับในประเทศไทยมีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังมีความจำเป็นในการใช้งานพริ้นเตอร์ โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีการจดทะเบียนของธุรกิจใหม่สูงถึง 68,665 ราย ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 13 % และยังเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี
บราเดอร์ในฐานะผู้นำพริ้นเตอร์หรือเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั้งสีและขาวดำ จึงพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยได้เปิดตัวพร้อมกันถึง 11 รุ่น ทั้งเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำมัลติฟังก์ชั่นและเครื่องพิมพ์สีแอลอีดีมัลติฟังก์ชั่น สำหรับตอบสนองการใช้งานของธุรกิจในทุกระดับตั้งแต่ธุรกิจใหม่ สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ โดยตอบโจทย์ทั้งด้านงานพิมพ์คุณภาพสูง มีความทนทาน ง่ายในการใช้งาน มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ต่ำ และยังมีโซลูชั่นในการบริหารจัดการเครื่อง รวมถึงมีความปลอดภัยในการใช้งาน
“ปีงบประมาณ 2566 ของบราเดอร์ (เมษายน 2566 – มีนาคม2567) ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 7 เดือน มียอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 10 % ซึ่งโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 5 % จากปีที่ผ่านมาซึ่งกำลังการผลิตไม่เพียงพอ ปีนี้เริ่มกลับมาเป็นปกติ ประกอบกับภาคธุรกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมาดำเนินงาน คาดว่าในช่วงเวลา 5 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ บราเดอร์จะสามารถทำรายได้เติบโตต่อเนื่องในช่วง 5-10 % ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของบราเดอร์ 88 % มาจากกลุ่มพริ้นเตอร์”
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของตลาดพริ้นเตอร์ในปัจจุบัน นายธีรวุธ มองว่า ความต้องการใช้งานเครื่องพริ้นเตอร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา อย่างแรกคือ คนใช้งานพริ้นเตอร์มีความต้องการใช้งานแบบที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลงเพื่อเอื้อต่อการทำงานของคนทั่วไป อย่างที่สองคือความต้องการของผู้บริโภคมีมากขึ้น ซึ่งต้องการพริ้นเตอร์ที่นอกจากจะพิมพ์งานได้แล้ว ยังต้องมีซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการงานในออฟฟิศได้ด้วย และอย่างที่สามคือ ความต้องการในเรื่องบริการ MPS ระบบบริหารจัดการที่ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้
ส่วนการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลขององค์กรต่างๆ นายธีรวุธ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อบราเดอร์ โดยการใช้งานของลูกค้าในบางกลุ่ม มีการพิมพ์น้อยลง เพราะใช้ไฟล์ดิจิทัลในการทำงานมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ก็คือการมีบริษัทใหม่เกิดขึ้น และภาครัฐบางส่วนยังต้องใช้เอกสารสำเนา ทำให้ความต้องการใช้งานพริ้นเตอร์ยังมีสูงกว่าอัตราการใช้งานที่ลดลงจากการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล
ด้านนางสาวทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจเครื่องพิมพ์ และอีคอมเมิร์ซ บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่นำมาเปิดตัวถึง 11 รุ่น ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่มากที่สุดในรอบ5 ปีของบราเดอร์ว่า เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ 6 รุ่น ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด “MONO WITH NO LIMITS ตอบโจทย์งานพิมพ์ขาวดำ เหมาะตั้งแต่สตาร์ทอัพจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ตัวเครื่องเน้นความคงทน รองรับปริมาณงานพิมพ์สูงสุด160,000 แผ่นต่อเดือน และมีโซลูชั่นช่วยในหลายด้านเช่นความปลอดภัยความง่ายในการใช้งาน การบริหารจัดการเครื่องพิมพ์ และการควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย MPS Program เช่น การวางเครื่องซื้อหมึก การคิดเงินต่อแผ่นตามการใช้จริงหรือการเช่าซื้อ
ส่วนเครื่องพิมพ์สีรุ่นใหม่มีจำนวน 5 รุ่น พัฒนาภายใต้แนวคิด MATCH COLOR REQUIRED ที่เน้นเรื่องความประหยัด ด้วยขนาดหมึกที่มีความหลากหลาย สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับปริมาณงานพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่หากหมึกสี สีใดสีหนึ่งหมดยังสามารถพิมพ์งานขาวดำต่อได้