เอไอเอส จ่ายค่าคลื่น 700 MHz เดินหน้าพร้อมใช้งานคลื่นได้ทันที มีสถานีฐานรองรับ 3,000 สถานีฐาน มั่นใจสิ้นปีนี้ลูกค้าใช้งาน 5G ทะลุหลักล้านเลขหมาย ระบุสนใจเป็นพันธมิตรคลื่น 700 MHz กับ NT เชื่อ NT เปิดกว้างพันธมิตร ตามนโยบายรมต.ดีอีเอส
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ได้ชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz งวดที่ 1 เป็นเงินจำนวน 1,881,488,000.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากมูลค่ารวม 15,584 ล้านบาท โดยมี พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
ทั้งนี้ในวันที่ 15 ม.ค. 2564 เอดับบลิวเอ็น จะได้รับใบอนุญาตเพื่อนำคลื่น 700 MHz มาให้บริการ ซึ่งได้ลงทุนสถานีฐานไปแล้ว 3,000 สถานี โดยคลื่น 700 MHz จะนำมาเสริมศักยภาพการให้บริการ 5G ร่วมกับคลื่น 2600 MHz ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าคอนซูเมอร์ใช้บริการ 5G หลักล้านเลขหมาย ขณะที่เมื่อสิ้นปี 2563 มีผู้ใช้งานประมาณหลักแสนราย ส่วนลูกค้าองค์กรคงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 ปี เมื่อมีการใช้งานเทคโนโลยี IoT, โรโบติก, เออาร์ หรือ วีอาร์ เป็นต้น
“ส่วนกรณีการเป็นพันธมิตรคลื่น 700 MHz ร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประกาศนโยบายในการเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรทุกรายนั้น ตนพร้อมที่จะร่วมเป็นพันธมิตรด้วย ซึ่งปีนี้เอไอเอสเตรียมงบสำหรับลงทุนอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ เอไอเอส มีคลื่นความถี่ครอบคลุมทุกย่าน ทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง ประกอบด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2×15 MHz), คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz รวมเฉพาะคลื่นความถี่ที่จะนำมาให้บริการ 5G ทั้งหมดอยู่ที่ 1330 MHz และเมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่มีจำนวนมากที่สุด เพื่อให้บริการ 3G,4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรมรวม 1420 MHz (ไม่รวมคลื่นที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ)
อย่างไรก็ดีด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี 5G โดย 3GPP ระบุว่า คลื่น 700 MHz จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ที่จำนวนเต็ม 30 MHz (2×15 MHz) จึงเป็นที่มาของความตั้งใจในการเข้าประมูลย่าน 700 MHz เพิ่มอีก 10 MHz (2×5 MHz) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 MHz (2×10 MHz) รวมเป็น 30 MHz (2×15 MHz) ในขณะที่ คลื่น 2600 MHz ต้องมีจำนวน 100 MHz จึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ส่วนคลื่น 26 GHz ต้องมีจำนวน 400 MHz ต่อ 1 Block จึงจะสามารถให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรองรับดิจิทัลโซลูชันให้กับภาคอุตสาหกรรมในอนาคต จึงเห็นได้ว่าจำนวนคลื่นในทุกย่านความถี่บนเทคโนโลยี 5G นั่น อยู่ในระดับมาตรฐานการให้บริการทั้งสิ้น
“เอไอเอสตระหนักเสมอว่า คลื่นความถี่ คือทรัพยากรสาธารณะอันทรงคุณค่า ดังนั้นหลังจากการประมูลได้แต่ละคลื่นมา จึงเร่งพัฒนาเครือข่าย เพื่อส่งต่อประโยชน์ไปยังประชาชน และทุกภาคส่วนอย่างรวดเร็วที่สุด ทำให้ล่าสุด ได้รับการรับรองจาก กสทช.ว่า เอไอเอส สามารถขยายเครือข่ายในคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ได้เกินกว่าที่ กสทช.กำหนด ซึ่งคลื่น 1800 MHz ภายใน 4 ปีแรก ต้องขยายโครงข่ายให้ได้ 40 % ของจำนวนประชากร แต่เอไอเอสขยายได้ 88.47% ส่วนคลื่น 900 MHz ภายใน 4 ปีแรก ต้องขยายโครงข่ายให้ได้ 50% ของจำนวนประชากร เอไอเอส ขยายได้ 93.59 % ซึ่งทีมงานจะยังคงเดินหน้านำเทคโนโลยี 5G จากทุกคลื่นความถี่ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกัน มาสร้างประโยชน์ทันที ตามเจตนารมณ์ของภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยก้าวสู่ Digital Intelligent Nation อย่างสมบูรณ์” นายสมชัย กล่าว