SAMART เผยกลยุทธ์รุกตลาดปีมังกร เน้นสร้างความมั่นคงยั่งยืน ผ่านการหาแหล่งทุนใหม่ลดภาระการใช้งบรัฐ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และเร่งขยายบริการที่บริษัทเชี่ยวชาญ ตั้งเป้ารายได้รวม 1.3 หมื่นล้านบาทโตกว่า 30 %
วันนี้ (30 มกราคม 2567) นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ ปี 2567 เป็นปีที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวจากภาวะสงครามและเงินเฟ้อ อีกทั้งงบประมาณภาครัฐที่ยังคงตึงตัว และการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น กลยุทธ์ของกลุ่มสามารถในปีนี้ จึงเน้นการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนผ่านการนำเสนอ Outsourcing Business Model และการแสวงหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ เพื่อลดภาระการใช้งบประมาณภาครัฐและเพิ่มโอกาสในการได้งาน มีการแสวงหาความร่วมมือในรูปแบบใหม่กับ Strategic Business Partner เพื่อเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขัน และมีการเร่งขยายบริการด้านเทคโนโลยีที่บริษัทมีประสบการณ์และความชำนาญไปสู่ฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว ด้วยความเชื่อมั่นในโอกาสและศักยภาพของบริษัท กลุ่มสามารถจึงตั้งเป้ารายได้รวมจำนวน 13,000 ล้านบาท โดยประมาณการเติบโตกว่า 30 % “
ทั้งนี้ในสายธุรกิจ Digital ICT Solution ในปีที่ผ่านมากลุ่มสามารถเทลคอม (SAMTEL) ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,300 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือปัจจุบัน รวมประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30 %โดยปีนี้กลุ่ม SAMTEL มีเป้าหมายที่จะเดินหน้าเต็มกำลัง ด้วยการมุ่งเน้นการนำโซลูชั่น และเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยขับเคลื่อนและยกระดับการดำเนินการในหน่วยงานลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ตอบรับกระแส Digital Transformation ที่องค์กรทุกภาคส่วนกำลังให้ความสำคัญ
สำหรับโซลูชั่นที่กลุ่ม SAMTEL เป็นผู้เชี่ยวชาญ และดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะมีการต่อยอดนำเสนอโซลูชั่นเพิ่มเติม พร้อมกับพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลโซลูชั่นด้านการเงิน การธนาคาร (Digital Banking Solutions) โซลูชั่นบริหารจัดการองค์กร (Organizational Management Solutions) เช่น ERP (Enterprise Resource Planning), EAM (Enterprise Asset Management), HCM (Human Capital management) หรือ CRM (Customer Relation Management) เป็นต้น ตลอดจนการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ เช่น Smart CCTV ด้วย
และที่สำคัญกลุ่ม SAMTEL ยังพร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์เพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อย่าง Solar Energy, โซลูชั่นเฝ้าระวังมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม หรือ ระบบบริหารจัดการพลังงาน เพื่อความยั่งยืนของสังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศชาติอีกด้วย
ส่วนสายธุรกิจ Utilities & Transportations ในปี 2567 สายธุรกิจนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 5,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23 % ด้วยโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะจาก บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาภายใต้ CATS คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 30 % จากปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค ประกอบกับรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายสนับสนุน ภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ล่าสุดได้มีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์แห่งใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 7 ล้านคน และภายในปีนี้จะมีการเปิดสนามบินนานาชาติดาราสาครอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสนามบินและวิทยุการบินในระดับภูมิภาคด้วย
ขณะที่ธุรกิจด้าน Power Construction & Services ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยบริษัทเทด้าและทรานเส็ค มีงานในมือปัจจุบันรวม 4,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะเข้าประมูลในปีนี้อีกกว่า 3,500 ล้านบาท , โครงการ Direct Coding ตั้งเป้ารายได้ 981 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10 % จากการเปิดโรงงานเบียร์แห่งใหม่และการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม เพื่อรองรับปริมาณการบริโภคที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากนโยบาย Free VISA และการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิง ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานธุรกิจบริการระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ หรือ Direct Coding ไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้าอื่นๆ อาทิ ยา และ น้ำมันที่ใช้ภายในประเทศอีกด้วย
ด้านสายธุรกิจ Digital Communications ธุรกิจ Digital Trunk Radio มีการเติบโตอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยมีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องวิทยุลูกข่ายและค่าใช้บริการ Air Time เพิ่มขึ้น 300 % โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนการขยายฐานผู้ใช้บริการให้กว้างขวางและครอบคลุมหน่วยงานผู้ให้บริการประชาชน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ราย ส่วนธุรกิจสายมูซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง บริษัท Lucky Heng Heng ในฐานะบริษัท น้องใหม่ของกลุ่มสามารถ ตั้งเป้าเป็นผู้นำในธุรกิจ Mutech ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยบริการครบวงจร 4 รูปแบบ คือ ดูดวง online ภายใต้ Horoworld ผ่าน Application และ Website ที่เป็นศูนย์รวมนักพยากรณ์ในศาสตร์ต่างๆมากที่สุดกว่า 200 ท่าน พร้อมให้บริการ 24 ชม., ทำบุญ online ภายใต้ Thai Merit ปัจจุบันเป็น Platform การทำบุญสำหรับวัดต่างๆ เช่น วัดเล่งเน่ยยี่ พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย และอีกกว่า 100 วัดชื่อดังในประเทศไทย ที่สายบุญสามารถทำบุญออนไลน์ได้อย่างสะดวกและมั่นใจ , บริการ Mu Commerce จำหน่ายสินค้าของวัตถุมงคลต่างๆ และ Muketing หรือ Marketing Agency สายมูให้กับลูกค้าองค์กรต่างๆในกลุ่มธนาคาร , ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และธุรกิจค้าปลีกต่างๆ โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายบริการสู่กลุ่มอื่นๆ นอกจากนั้นจะได้มีการเปิดตัวธุรกิจใหม่ของบริษัทในเครืออย่างเช่น Samart Digital Media และ ISPORT ในปีนี้อีกด้วย
นายวัฒน์ชัย กล่าวสรุปว่า “จากปัจจัยบวกหลายด้าน ประกอบด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของธุรกิจและภาระต้นทุนทางการเงินที่ปรับลดลง, ความสามารถของทีมงานและโซลูชั่นที่ผ่านการรับรอง, โอกาสและช่องทางในการขยายฐานธุรกิจใหม่ๆ ที่เล็งเห็นอย่างชัดเจน ผมจึงเชื่อมั่นว่า ปี 2567 กลุ่มสามารถจะกลับมาเติบโตด้วยรายได้ที่มั่นคง และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างคุ้มค่า”
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทสามารถ ประกอบด้วย 3 สายธุรกิจ ได้แก่ สายธุรกิจ Digital ICT Solution สายธุรกิจ Digital Communications สายธุรกิจ Utilities & Transportation และมี 4 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น , บมจ.สามารถเทลคอม บมจ.สามารถดิจิตอล และบมจ.สามารถเอวิเอชั่น