วว. ระดมความคิดเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน ร่วมกำหนดบทบาทวว.ในอนาคต เพื่อให้เกิดแนวทางนำ วทน. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ ประธานกรรมการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการประชุมระดมความคิด “บทบาทการดำเนินงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยในอนาคต” โดยมี ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดประชุม ที่จัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของ วว. ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้สามารถนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและร่วมกำหนดทิศทางการวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การบริการ และการพัฒนา วว. ภายใต้แผนวิสาหกิจ พ.ศ. 2567 – 2570 โดยเน้นการมีส่วนร่วมของหน่วยงานกำกับดูแล พันธมิตรคู่ความร่วมมือ ลูกค้า คู่ค้า คู่เทียบ ชุมชน สังคม และสื่อมวลชน
รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ กล่าวว่า กระทรวง อว. ได้มอบหมายให้ วว. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัด เป็นหน่วยงานที่ช่วยขับเคลื่อนสร้างมูลค่าและคุณค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ชุมชนและประเทศชาติ รวมทั้งเสริมให้ วว. มีบทบาทสร้างเยาวชนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านธุรกิจควบคู่กันไป เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมและเศรษฐกิจของประเทศไทย
ทั้งนี้ วว. มีคณะกรรมการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (กวท.) เป็นผู้กำกับทิศทางการดำเนินงาน ซึ่งมีนโยบายในช่วงปี 2567-2568 ดังนี้ 1. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพของประเทศ 2. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 3.เร่งการพัฒนาบริการวิเคราะห์ทดสอบมูลค่าสูงที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อลดการส่งวิเคราะห์ทดสอบต่างประเทศของผู้ประกอบการ SMEs และ 4.ขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ (Intelligence Organization) ที่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างชาญฉลาดและคุ้มค่า สามารถปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถที่มีเอกลักษณ์ในการแข่งขันและสร้างคุณค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
“วว. นำนโยบายสู่การปฏิบัติโดยจัดทำแผนวิสาหกิจ พ.ศ. 2567-2570 ที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาศักยภาพขององค์กร โดยมียุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมการพัฒนา BCG มูลค่าสูง การส่งเสริม SMEs ภาคอุตสาหกรรม การวิจัยพัฒนาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการมุ่งสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะเพื่อสร้างความยั่งยืนต่อไป” ประธานกรรมการฯ กล่าว
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต กล่าวว่า วว. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานตามแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งกำหนดให้ วว. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ SMEs ร่วมกับรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วว. มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กรอบการพัฒนาความยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ ที่ดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: SDGs) ภายใต้กรอบการพัฒนาความยั่งยืนตามกรอบ ESG Framework ซึ่งประกอบด้วย สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลที่ดี (Governance) ทั้งนี้ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างความเข้มแข็งให้ SMEs และชุมชนผ่านระบบนิเวศ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน”
สำหรับการดำเนินงานของ วว. ที่ผ่านมา ดร.ชุติมา กล่าวว่ากว่า 60 ปีที่ผ่านมา วว.มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลงาน ตอบโจทย์ ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศและพี่น้องประชาชน ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ส่งเสริมการนำผลการวิจัยและพัฒนาไปใช้ในทางปฏิบัติให้เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ส่งผลให้ วว. เป็นองค์กรแกนหลักที่สร้าง Impact ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ในบริบทการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาทักษะการประกอบอาชีพ พัฒนาศักยภาพการประกอบธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการ OTOP SMEs วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร ผ่านการดำเนินโครงการสำคัญต่างๆ เช่น โครงการ Quick win : Up-Skill Re-Skill พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงของ อว. ที่สามารถเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs บุคลากรภาครัฐและเอกชนในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค กว่า 1,100 คน โครงการการประเมินและพัฒนาศักยภาพผลผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมในพื้นที่นำร่องจังหวัดยากจน ที่มุ่งเน้นให้เกิดอาชีพ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มคนจนเป้าหมาย ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี และขยายไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ (Area based) ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ในพืชเศรษฐกิจใหม่ คือ สมุนไพรและพืชอัตลักษณ์ในพื้นที่ โครงการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากระดับจังหวัดด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่กระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเกษตรระดับชุมชนท้องถิ่น ในพื้นที่ 8 จังหวัดเป้าหมาย และโครงการตาลเดี่ยวโมเดลจัดการขยะสู่พลังงานและสร้างรายได้เพื่อความยั่งยืนของชุมชน ซึ่ง วว. และพันธมิตรได้มีการต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง
ดร.ชุติมา กล่าวอีกว่าปัจจัยหรือกลไกที่ทำให้ วว. ขับเคลื่อนการดำเนินงานสำเร็จและเป็นรูปธรรมคือมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการ โดยให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ในรูปแบบการพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ “วว. JUMP” ที่ให้บริการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองรับการให้บริการแบบ One Stop Service ออนไลน์ 24 ชั่วโมง สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการได้อย่างทันท่วงที เพื่อก้าวไปสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับภาพรวมมิติการทำงานของ วว. ในอนาคต ผู้ว่าการวว. กล่าวว่า จะอยู่ในบทบาทการเป็นองค์กรส่งเสริมและเป็นแกนหลักที่จะทำให้ภาคประชาชน OTOP SMEs ประสบผลสำเร็จทั้งในเวทีภายในประเทศและระดับสากล โดยมุ่งนำ วทน. ไปเสริมสร้างผลิตภาพการผลิตให้ดีขึ้น สร้างนวัตกรรมตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ประเทศหลุดจากกับดักทางรายได้ คุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนมีความเท่าเทียม และเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ วว.จะมุ่งเน้นการดำเนินงานผลิตผลงานวิจัยที่มีผลกระทบสูงต่ออุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย โดยเฉพาะการวิจัยที่มี Technology Roadmap ขององค์กรเป็นตัวนำและทำต่อเนื่อง เป็นผลงานสร้างนวัตกรรมพร้อมใช้ 60% และฐานองค์ความรู้ 40% ซึ่งมีแนวทางที่ชัดเจนว่างานวิจัยของ วว. ต้องมีผู้นำไปใช้เกิดขึ้นให้ได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม และเป็น market driven มากขึ้น ต้องไม่อยู่บนหิ้ง นอกจากนี้ วว. ให้ความสำคัญในการมุ่งเป็นหุ้นส่วนความสำเร็จ ให้แก่ ผู้ประกอบการ SMEs OTOP และประชาชน อย่างต่อเนื่อง และมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ/เอกชน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ โดยอยู่บนฐานของทรัพยากรชีวภาพ (Bio-based) จะเป็นกลไกสำคัญที่ วว. จะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย สร้างประโยชน์อย่างครบวงจร (Total Solution Provider) พัฒนาเทคโนโลยีที่สนองตามบริบทของผู้ใช้ประโยชน์ (Appropriate technology) และสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและประชาชนเชิงพื้นที่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน