วช. เตรียมพาผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหารโชว์ในงาน Thai Fex Anuga Asia 2024

News Update

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดกิจกรรม  NRCT TALK: Green and Sustainability Innovation Food Products  โชว์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ เตรียมนำไปจัดแสดงในงาน Thai Fex Anuga Asia 2024 ที่อิมแพค เมืองทองธานี

นายสมปรารถนา สุขทวี  รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  กล่าวว่า   การจัดกิจกรรม NRCT TALK: Green and Sustainability Innovation Food Products ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของ วช. โดยอุตสาหกรรมอาหารถือเป็น 1 ใน 10 Flagships ที่สำคัญของ วช.ซึ่งมุ่งเน้น ใช้วัตถุดิบทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม   มีการประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยทางด้านอาหารที่มีการนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการผลิตจนพร้อมที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ และเป็นการส่งเสริมและผลักดันให้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารได้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค

 กิจกรรมดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ได้เตรียมความพร้อมทางการตลาด  ให้กับผลิตภัณฑ์สินค้านวัตกรรม  โดยเฉพาะเรื่อง  Functional Food และ Plant-Based Food & Drinks  ที่มีอัตราการเติบโตสูง

ทั้งนี้จากการเสวนาเรื่อง  “Plant-Based Food & Drinks : โอกาสของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มไทย…สู่สากล”    พบว่าปัจจุบันตลาดอาหาร Plant-Based มีมูลค่าสูงถึง 77,800 ล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประมาณ  9.2 %  ต่อปี เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภค รักสุขภาพมากขึ้น ซึ่งอาหารกลุ่ม  Plant-Based  เข้ามาตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

ผศ.ดร.ปภัศร  ชัยวัฒน์    จากศูนย์ศึกษางานนโยบายเพื่อการพัฒนา  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เปิดเผยว่าภาพรวมตลาด Plant-Based  มีมูลค่าสูง มีการเติบโตสูงมาก และไม่ได้อยู่แค่ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งหากดูจากผลการวิจัยตลาดต่าง ๆ จะเห็นว่าขอบเขตของการขยายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้เข้าไปสู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นอุตสาหกรรมยา   หรือเครื่องสำอางมากขึ้น      

“อาหาร  Plant-Based จะไม่ใช่อาหารวีแกน (Vegan)   ผู้ประกอบการจะต้องมีความชัดเจนในกลุ่มเป้าหมายซึ่ง  Plant-Based  จะเป็นกลุ่มที่พยายามหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ แต่ยังสามารถบริโภคอนุพันธ์ของเนื้อสัตว์เช่นน้ำผึ้ง ไข่ นม ขณะที่วีแกนจะไม่บริโภคเนื้อสัตว์รวมถึงอนุพันธ์ด้วย  ซึ่งตลาด Plant-Based จะใหญ่มาก  ส่วนวีแกน จะมีประมาณ  70 %  ของ Plant-Based  นอกจากนี้แนวโน้มผู้บริโภค จะไม่ต้องการบริโภคสินค้าเดิม ๆ  แต่สนใจพวกเครื่องปรุงหรืออินเกรเดี้ยนมากขึ้น  รวมถึงไม่อยากบริโภคอาหารที่ต้องใช้กระบวนการผลิต ปรุงแต่งหรือแปรรูป ที่มาก” 

สำหรับอุปสรรคในการเข้าตลาดของกลุ่ม Plant-Based   ของผู้ประกอบการไทย มีปัจจัยสำคัญ คือ 1.สินค้าเข้าถึงยาก หาซื้อได้ยาก 2. ต้องมีการแยกแบรนด์ให้ชัดเจน  3. ราคาต้องคุ้มค่า  เหมาะสม และ 4.ต้องรับประทานง่าย

ในงานยังมีผู้ประกอบการนำนวัตกรรมอาหารมาจัดแสดง เช่น  เค้กไฟลุกและไอซิ่งชี้ทแต่งหน้าเค้ก ชีสทุเรียน  Larna cake ATM ตู้กดเค้กหน้านิ่มแช่แข็ง โปรตีนจากถั่วดาวอินคา…ผลิตภัณฑ์กาแฟจากถั่วดาวอินคา และ โปรตีนอัดเม็ด ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากซินไบโอติกจากน้ำหมักมะม่วง ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากแมงกะพรุนฟรีซดราย  อย่างไรก็ดี  วช. จะมีการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารดังกล่าวไปร่วมจัดแสดงออกบูธในงาน Thai Fex Anuga Asia 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารขนาดใหญ่ของเอเชีย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวัน 28 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยแบ่งเป็นวันเจรจาการค้า ในวันที่ 28 – 31 พฤษภาคม 2567 (เวลา 10.00-18.00 น.) และวันเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก ในวันที่ 1 มิถุนายน 2567