เบลนเดต้า (Blendata) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ เร่งเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์สร้าง Ecosystem ครบวงจร มุ่งผลักดันเทคโนโลยี Big Data และ AI ของไทยสู่ตลาดโลก เปิดตัวบริการล่าสุด Blendata Enterprise on AWS Cloud แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่บนคลาวด์ในรูปแบบ Self-Service และบริการ Data & AI Consultant ให้คำปรึกษาโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก Blendata พร้อมเสริมศักยภาพด้วยการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายด้านทั้งในไทยและเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำกลยุทธ์ด้วยการเข้าลงทุนและร่วมมือกันในฐานะ Strategic Partner กับ Opsta บริษัทด้าน DevSecOps และ Cloud Native Technologies สัญชาติไทย จากการสร้าง Ecosystem อย่างต่อเนื่อง Blendata สามารถพิสูจน์ความสำเร็จด้วยการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 63% ในปี 2566
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด เปิดเผยว่า ในยุคที่ AI เข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักของกลยุทธ์องค์กร ‘ข้อมูล’ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้กลยุทธ์ AI ประสบความสำเร็จ ปีนี้ Blendata จึงเดินหน้าตามกลยุทธ์ของบริษัทอย่างเต็มตัว ซึ่งบริษัทฯมองเห็นปัญหาที่องค์กรส่วนใหญ่พบเจอ ทั้งในด้านการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ การต่อยอดข้อมูล และการรักษาความปลอดภัย ที่แม้ในไทยจะมีผู้ให้บริการด้าน Data และ Analytics ตั้งแต่ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบุคลากร แต่ผู้ใช้บริการยังคงต้องประกอบโซลูชันทั้งหมดขึ้นมาเอง อีกทั้งยังต้องทำการคาดการณ์ปริมาณการประมวลผลและข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บเพื่อเตรียมระบบ (Infrastructure) ให้เพียงพอล่วงหน้า ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการล่าช้า ต้นทุนสูง และขาดประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งานและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ดังกล่าว ในปีนี้ Blendata ได้เปิดให้บริการ Blendata Enterprise on AWS Cloud เพื่อแก้ปัญหาให้กับธุรกิจที่มีข้อมูลจำนวนมากที่ต้องการทรัพยากรและเทคโนโลยีขั้นสูงในการวิเคราะห์และจัดการ ซึ่งในขณะที่เครื่องมือบนคลาวด์ปัจจุบันมีการบริการแยกตามแต่ละส่วนของการจัดการข้อมูลแล้วก็ตาม เช่นการจัดการข้อมูล การทำความสะอาดข้อมูล การประมวลผลข้อมูล เป็นต้น หากแต่องค์กรยังคงต้องเรียนรู้เทคโนโลยีในแต่ละส่วน และประกอบโซลูชั่นด้วยตนเอง ทำให้ต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะจำนวนมากเข้ามาทำโครงการ Big Data ให้สำเร็จ Blendata Enterprise on AWS Cloud ตอบโจทย์ปัญหาข้างต้นด้วยการเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบ Data Lakehouse บนคลาวด์ในรูปแบบ Self-Service ที่รวมฟังก์ชัน Big Data & Advanced Analytics ไว้อย่างครบถ้วนในรูปแบบ Low-code บน GUI เดียว สามารถใช้งานผ่านระบบคลาวด์ของ AWS และสามารถปรับขนาดตามความต้องการของธุรกิจ ใช้งานง่าย มีความปลอดภัยสูง รองรับการขยายตัวในอนาคตโดยไม่ผูกติดกับ Vendor ด้วยรูปแบบ Open platform และคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง (Pay-Per-Use) เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
อีกทั้งยังเปิดบริการใหม่ Data & AI Consultant โดยผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลจาก Blendata ที่พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางการใช้เทคโนโลยี Big Data และ AI เพื่อสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยมีความถนัดเฉพาะเจาะจงในหลายอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร การแพทย์ หรือการผลิต เป็นต้น สามารถช่วยองค์กรพัฒนาโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจ ช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและผลักดันการเติบโตขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Blendata ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น โดยได้ผนึกกำลังกับบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้านมาอย่างต่อเนื่องทั้งพันธมิตรในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ช่วยยกระดับเทคโนโลยีด้านข้อมูลของไทยให้แข็งแกร่งขึ้น โดยมีทั้งพันธมิตรที่เป็นบริษัทด้าน System Integration ชั้นนำ พันธมิตรด้านการให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์การใช้ Big Data และ AI ในการทำ Digital Transformation กับธุรกิจ และพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยี อีกทั้งยังร่วมมือกับองค์กรการศึกษาเพื่อส่งเสริมการศึกษา วิจัย และพัฒนาบุคลากรด้าน Big Data และ AI ซึ่งล่าสุดเมื่อต้นปีนั้นก็ได้เสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ด้วยการเข้าลงทุนและร่วมมือกันในฐานะ Strategic Partner กับบริษัท Opsta ผู้เชี่ยวชาญด้าน DevSecOps และ Cloud Native Technologies สัญชาติไทย โดยผสานรวมเทคโนโลยีด้าน Big Data, AI, DevSecOps และ Cloud Native เพื่อผลักดันธุรกิจให้ก้าวไปสู่ยุค AI Transformation อย่างเต็มศักยภาพ โดยการรวมเทคโนโลยีของทั้ง 2 บริษัทและสร้าง Blueprint ที่ครอบคลุมในทุกมิติเข้าด้วยกัน และวางเป้าหมายในการสร้างนวัตกรรม AIOpsและ DataOps ต่อไปในอนาคตอันใกล้
นายณัฐนภัสกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ที่กล่าวมาและการขยายกลุ่มพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง Blendata ได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจในปี 2566 โดยมีการเติบโตด้านรายได้กว่า 63% (YoY) ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์และความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อ Blendata เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต Blendata ได้วางแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทชั้นนำด้านอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และขยายบริการให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดได้มากยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นในการสร้างEcosystem และการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีไทยให้ก้าวไกลในเวทีสากล อย่างไรก็ตาม Blendataพร้อมเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งต่อเนื่องในอนาคต อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและติดต่อทีมงาน Blendata ได้ที่ https://blendata.co/