ด้วยความที่ทุกวันนี้เราต้องแข่งกับ ‘เวลา’ ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจึงมักอาศัยอยู่ตามแหล่งย่านชุมชนเมืองใหญ่ คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ ที่สามารถเดินทางไปมาได้สะดวก ภายใต้ความต้องการความสะดวกสบายนี้ไม่ใช่แม้แต่การเดินทางเพียงเท่านั้น แต่การบริหารจัดการงานบ้านอย่างการ ‘ซักผ้า’ ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่มักจะมองหาโซลูชั่นที่สามารถเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพวกเขา จึงไม่แปลกที่ภาพรวมของธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ทั้งนี้ธุรกิจร้านซักผ้าในปัจจุบันเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากมักประสบกับปัญหาที่ตามมาคือ ข้อจำกัดของการชำระเงินซึ่งถูกจำกัดเพียงแค่เหรียญสิบเท่านั้น หากผู้บริโภคเตรียมเงินไม่พอดีจะส่งผลต่อความล่าช้าในการแลกเหรียญ อีกทั้งบางช่วงเวลาที่มีผู้ใช้จำนวนมากอาจส่งผลต่อการลัดคิวเกิดขึ้น ไม่สามารถติดตามสถานะการทำงานของเครื่องซักผ้าได้ และในมุมของผู้ประกอบการที่ไม่สามารถตรวจสอบความผิดปกติ หรือการเสียหายของเครื่องซักผ้าด้วยตนเองได้ และที่สำคัญมักพบกับปัญหาการโจรกรรม จากปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่จุดประกายแนวคิดให้กับ ‘กัลย์สุดา’ นักศึกษาจากรั้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มองเห็นไอเดียที่จะเปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นธุรกิจบนเส้นทางดิจิทัลสตาร์ทอัพได้
การันตีไอเดียด้วยรางวัลหลากหลายจากการประกวดแผนธุรกิจสตาร์ทอัพ ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เช่น Startup Thailand League 2017 มูลค่ารวม 1 แสนบาท ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ในระยะก่อตั้งธุรกิจมูลค่ารวม 1 ล้านบาท และการได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
กัลย์สุดา ฤกษ์ศรี กรรมการผู้จัดการบริษัท วี วิล ลอค ยู จำกัด กล่าวว่า วอชเวย์ (Washway) ต้องการแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาระบบบริหารจัดการร้านสะดวกซักขึ้นมาช่วยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ผ่านการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบบริหารจัดการธุรกิจเครื่องซักผ้า
“วอชเวย์ เป็นแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักผู้บริโภคสามารถเช็คสถานะเครื่องซักผ้า และสามารถจ่ายเงินได้ 2 ระบบ โดยจ่ายออนไลน์ผ่านธนาคารใดก็ได้ผ่าน payment gateway ซึ่งเป็นการชำระค่าบริการผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์และหยอดเหรียญโดยมีอุปกรณ์ต่อประกอบควบคุมเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าด้วยเทคโนโลยี Internet of things และระบบซอฟแวร์บริหารจัดการร้านสะดวกซักที่ทำให้เจ้าของร้านสะดวกซักสามารถติดตามสถานะเครื่อง ตรวจสอบรายได้แบบ เรียลไทม์ ควบคุมมอนิเตอร์เครื่องซักผ้าแบบเรียลไทม์ ผ่านการประมวลผลบนระบบคลาวด์เซิฟต์เวอร์ได้จากที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปหน้าร้าน เงินเข้าบัญชีอย่างปลอดภัย รู้สถานะทำงานของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าว่าทำงานปกติหรือชำรุด ช่วยลดปัญหาการสูญเสียรายได้”
ได้มีการวางจะขยายสาขาโดยใช้กลยุทธ์แผนป่าล้อมเมือง ลุยตลาดรอบนอกกรุงเทพฯ และเน้นภาคอีสานจากนั้นขยายไปในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเป็นหลัก ช่วยเหลือลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ อีกทั้งช่วยวิเคราะห์ทำเล หวังให้ลูกค้าลงทุนแล้วได้รายได้อย่างยั่งยืน
“ขณะเดียวกันบิซิเนสโมเดลที่วางไว้คือ ตั้งใจจะโตไปพร้อมกับคนที่ซื้อแฟรนไชส์โดยเป็นพาร์ทเนอร์ตั้งแต่การสำรวจและเลือกโลเคชั่นอีกทั้งยังปรับให้เข้าบริบทของลูกค้าได้นั่นคือ1.หากลูกค้ามีงบประมาณที่จำกัด ก็สามารถปรับ Size เพื่อ ตอบสนองตามงบประมาณ 2.เรื่องของโลเคชั่นและความเหมาะสมของจำนวน Machine
ในส่วนของรายได้จะมาจาก 1.Franchise ร้านสะดวกซัก 2.Subscription ระบบบริหารจัดการ3.ขายอุปกรณ์ต่อประกอบ ควบคุมเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าสำหรับลูกค้าที่มีเครื่องแล้วต้องการอัพเกรดระบบเพิ่ม
ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายแบ่งออกเป็น 1.ผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนร้านสะดวกซัก 2.ผู้ประกอบการร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่อยากเปลี่ยนระบบให้เป็นแบบออนไลน์ 3.ผู้ประกอบการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในที่อยู่อาศัยแนวดิ่งที่อยากเปลี่ยนระบบให้เป็นแบบออนไลน์ 4.ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งสร้างที่อยู่อาศัยแนวดิ่งใหม่ และยังไม่ทำการติดตั้งเครื่องซักผ้าอำนวย ความสะดวกผู้เข้าอยู่อาศัย
สุดท้ายนี้โรดแมปธุรกิจที่วางไว้คือ ในปีนี้จะเน้นที่การขยายทีมและการขยายสาขาเพิ่ม จากปัจจุบันมีการซื้อขายแล้ว 6 สาขา อาทิเช่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครราชสีมา และอยู่ระหว่างการติดตั้ง 2 สาขา ทำให้ปัจจุบันมีมูลค่ากิจการกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าเติบโต 200% ภายใน 2 ปี ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย พร้อมมองหาทั้งพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันเพื่อจะลุยในตลาดนี้หรือนักลงทุนที่สนใจที่พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน