” Feed the World with Sustainable Protein” ต้องการเป็นผู้นำด้านโปรตีนทางเลือกและส่งมอบผลิตภัณฑ์โปรตีนที่มีความสะอาด เป็นธรรมชาติและมีคุณค่าทางโภชนาการต่อมวลมนุษยชาติและมีความยั่งยืนด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์อาหารในอนาคต
…นี่ก็คือ “Mission” ของบริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด เทคสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมอาหารที่ Spin Off จากมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อนำความสำเร็จจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติ มาสู่การใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์…
รศ.ดร.ขนิษฐา รุตรัตนมงคล อาจารย์และนักวิจัย จากภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ฯ ม.นเรศวร และ CTO บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า “ บริษัท Spin Off จากงานวิจัย 100 % และมี Mission คือต้องการ Feed the World with Sustainable Protein เราจึงมองหาจุดแข็งของประเทศไทย ซึ่งก็คือ เป็นแหล่งโปรตีน เราสามารถผลิตโปรตีนที่มีคุณภาพได้ แต่หากต้องการที่จะเพิ่มมูลค่าและก้าวไปสู่ตลาดต่างประเทศได้นั้น การใช้เทคโนโลยีธรรมดาคงไม่พอ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือดีพเทค (Deep Technology) ”
สำหรับ “ไทย เอนโท ฟู้ด” ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 เริ่มต้นการดำเนินธุรกิจผลิตโปรตีนจากแมลง ภายใต้แบรนด์ “ Sixtein” ซึ่งเป็นผงโปรตีนคุณภาพสูงจากจิ้งหรีด เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในตลาดอาหารและเครื่องดื่มโปรตีนสูง บริษัทให้ความสำคัญกับการวิจัยและสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการร่วมศึกษาวิจัยกับมหาวิทยาลัยนเรศวร อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) พัฒนาการทำฟาร์มแมลงระบบปิดแนวตั้ง และการผลิตผงโปรตีนจากแมลงคุณภาพสูง
ต่อมามีการพัฒนาโปรตีนจากแมลงเพื่อการบริโภคในระดับอุตสาหกรรมแบบครบวงจร โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย Spearhead เศรษฐกิจ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ตั้งแต่ปี 2563 และยังดำเนินการต่อเนื่องในปีที่ 3 รวมถึงได้รับการสนับสนุนการเข้าโปรแกรมบ่มเพาะทางธุรกิจจากเมืองนวัตกรรมอาหารหรือ Food Innopolis สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โครงการ Space-F และ โครงการวิจัย Thematic จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ปัจจุบันผลงานวิจัยอยู่ในระดับ TRL 9 ได้มาตรฐานการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว
รศ.ดร.ขนิษฐา บอกว่า จุดแข็งของ ไทย เอนโท ฟู้ด คือ “ I-Sec Technology” ซึ่งเป็น Core Technology หรือเทคโนโลยีหลักของบริษัท และเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง หรือดีพเทค ที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นมา จากระดับห้องปฏิบัติการ ต่อยอดออกมาเป็นระบบอัตโนมัติ ผลิตได้แบบต่อเนื่อง สามารถแยกโปรตีนและทำให้เข้มข้นขึ้นได้
เทคโนโลยีนี้ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้แรงงาน และระยะเวลาในการผลิต นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นเรื่องของความยั่งยืนหรือ Sustainability ไม่ใช้สารเคมี จัดเป็น Green &Clean technology ซึ่งกระบวนการผลิตจะเป็น Zero Waste ในทุกส่วนการผลิตสามารถนำไปใช้ต่อได้ สามารถขยายกำลังการผลิตได้ง่ายและมีความยืดหยุ่นในการปรับสภาวะได้สูง
จาก Sixtein: Superfine Cricket Protein Powder ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่พัฒนาขึ้น ไทย เอนโท ฟู้ด ได้มีการต่อยอดนำดีพเทค มาใช้ประโยชน์กับการสกัดโปรตีนชนิดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ อย่างเช่น “ ไก่” ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ประเทศไทยมีกำลังการผลิตจำนวนมาก จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ “ChixTein” ผงโปรตีนไก่เข้มข้น ซึ่งหากรับประทานเพียง100 กรัม เทียบเท่าการทานอกไก่จำนวน 500 กรัม
“ โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญกับคนทุกเพศทุกวัย แต่ปัญหาที่พบในปัจจุบันคือการทานโปรตีนไม่ถึง ผลิตภัณฑ์ของไทย เอนโท ฟู้ด ทั้ง Sixtein โปรตีนจากแมลง และ ChixTein ผงโปรตีนไก่ ล้วนเป็นโปรตีนแบบเข้มข้น ที่ตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าว ปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้าโปรตีนเข้มข้นเกือบจะ 100 % ไทย เอนโท ฟู้ด จึงน่าจะเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ที่สามารถผลิตโปรตีนเข้มข้นได้เอง โดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศไทย และสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก”
อย่างไรดี ล่าสุด… ภายใต้การสนับสนุนจาก บพข. ร่วมกับ แพลตฟอร์มเร่งรัดการเติบโตทางธุรกิจ ( FOREFOOD) เมืองนวัตกรรมอาหาร สวทช. โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวิทยาการอาหารนานาชาติ (ศกศอ.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หน่วยวิจัยทางประสาทสัมผัสและผู้บริโภคแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KUSCR) คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และภาคเอกชนคือหอการค้าจังหวัดจันทบุรี บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (Greyhound Café) และ บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด (Silpin Asia Co., Ltd.) ทำให้ผลงานนวัตกรรมอาหารที่ใช้ดีพเทคในการพัฒนา อย่าง “ChixTein” ผงโปรตีนไก่เข้มข้น ฝีมือ “ไทย เอนโท ฟู้ด” เทคสตาร์ทชาวไทย ได้มีโอกาสไปโชว์ศักยภาพในเวทีระดับโลก ในงาน “Thailand’s Taste of Tomorrow” ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่12 มิถุนายน ที่ผ่านมา
งานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการการทดสอบแพลตฟอร์มส่งเสริมการตลาดสำหรับธุรกิจนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในตลาดโลก” ซึ่งฉีกกรอบรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยเดิม ๆ มาสู่การนำเสนอผ่านสื่อสร้างสรรค์ กระตุ้นสื่อประสาทสัมผัสทั้งห้าของผู้บริโภค มีการผสมผสานการเล่าเรื่องผ่านวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานป่าหิมพานต์
การไปร่วมนำเสนอผลงานครั้งนี้ CTO ของ ไทย เอนโท ฟู้ด บอกว่า ต้องการ Strategic Partnerships ที่สามารถทำให้บริษัทเติบโตสู่ตลาดระดับโลก และอาจเป็นในรูปแบบของการ Joint Venture ในอนาคต
“งานนี้ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีและแปลกใหม่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งคิดว่าคงไม่มีประเทศไหนนำเสนอผลิตภัณฑ์และเป็นตัวแทนการแสดงออกของความเป็นชาติไทยในแนวศิลปะได้เหมือนเรา”