ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมอาหาร ทำให้ “พิงกี้ เพ็ญสิริ ณ นครพนม” มองเห็นโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วัตถุดิบที่มีอัตลักษณ์ไทยเพื่อผลักดันให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จึงร่วมกับกลุ่มที่เรียนปริญญาเอก Technology Management and Innopreneurship Program จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้ง “ บริษัท เก็ท เทสท์ ไทย จำกัด” ขึ้น โดยมีแรงบันดาลใจจากความตั้งใจที่จะวิจัย พัฒนา และนำนวัตกรรมมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อผลิตอาหารที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์รสชาติไทยแท้ต้นตำรับและส่งออกสู่ตลาดโลก
“เราเชื่อในการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ”
คุณเพ็ญสิริ ณ นครพนม CEO บริษัท เก็ท เทสท์ ไทย จำกัด บอกว่า ปัจจุบันตลาดเม็ดฟู่มีผู้ผลิตจำนวนมาก แต่ยังไม่มีเม็ดฟู่สมุนไพรไทย บริษัทฯ จึงพัฒนา “ผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่สมุนไพรกลิ่นรสผลไม้ไทย” ขึ้น ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ GET THA” และที่สำคัญคือ การนำผลไม้ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งมีความจำเพาะในแต่ละพื้นที่มาเป็นวัตถุดิบ ก็ถือว่ามีเพียงแห่งเดียวในโลก การวาดฝันเข้าสู่ตลาดโลก จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก
สำหรับ “เม็ดฟู่สมุนไพรกลิ่นรสผลไม้ไทย” มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอคุณประโยชน์และสรรพคุณของสมุนไพรที่บริโภคง่ายเข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง ทำให้สามารถคงความเข้มข้นของสมุนไพรและดูดซึมได้เร็วขึ้น รวมถึงการให้กลิ่นรสผลไม้ไทยแท้ ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการบริโภคผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ ซึ่งมีรสชาติอร่อย แตกต่าง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ฯ ยังเน้นความสะดวกในการใช้งาน บรรจุภัณฑ์พกพาง่ายและช่วยในการเก็บรักษา
“ ผลไม้ที่นำมาผลิตเป็นเม็ดฟู่ ต้องเป็นสินค้าจีไอ หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งจะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก อย่างขมิ้นชัน ก็ต้องเป็นของสุราษฎร์ธานี มะม่วงก็ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจากบางคล้า มังคุดจากเขาคีรีวงศ์ สับปะรดภูแล เป็นต้น เรียกว่าคัดสรรค์ความเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์อย่างแท้จริง โดยใช้เทคโนโลยีเชิงลึกที่คิดค้นเพื่อสกัดจนได้กลิ่น รสชาติ สารอาหาร วิตามิน ครบถ้วน”
สำหรับเส้นทางการวิจัยและพัฒนาของ “บริษัท เก็ท เทสท์ ไทย” คุณเพ็ญสิริ บอกว่า ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และหน่วยงานศูนย์บ่มเพาะ ได้แก่ โครงการ ForeFood Accelerator เมืองนวัตกรรมอาหาร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) และ Fincubator เมืองนวัตกรรมอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่สนับสนุนในการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการทดสอบและขยายตลาด ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่ผลิตภัณฑ์ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนในการทำวิจัยการสกัดกลิ่นรสผลไม้ที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สำหรับการพัฒนาเม็ดฟู่ ในโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สวทช. เพื่อเน้นย้ำถึงการพัฒนานวัตกรรมทางอาหารและสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกันในตลาด
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่สมุนไพรไทยกลิ่นรสผลไม้ “GET THA” ได้รับการพัฒนาและพร้อมที่จะออกสู่ตลาดโดยมีแผนขยายสายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมรวมถึงพัฒนาสูตรใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูงสุดแก่ผู้บริโภคทั่วโลก
อย่างไรก็ดีเมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท เก็ท เทสท์ ไทย เป็น 1ใน10 สตาร์ทอัพ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ไป นำเสนอผลงานนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ในรูปแบบใหม่ที่ใช้สื่อสร้างสรรค์ ผสมผสานการเล่าเรื่องผ่านวัฒนธรรมไทย ในเวที Thailand’s Taste of Tomorrow ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ “แพลตฟอร์มส่งเสริมการตลาดสำหรับธุรกิจนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต” ที่ บพข. ร่วมกับ เมืองนวัตกรรมอาหาร สวทช. โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวิทยาการอาหารนานาชาติ (ศกศอ.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หน่วยวิจัยทางประสาทสัมผัสและผู้บริโภคแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KUSCR) และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) รวมถึงภาคเอกชน จัดขึ้น เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Science and Technology) ออกสู่เชิงพาณิชย์ มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารไทยได้อย่างยั่งยืนในตลาดสากล
ในการนำเสนอผลงานดังกล่าว บริษัท เก็ท เทสท์ ไทย ได้นำเสนอร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น การตลาด การกระจายสินค้า และการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สามารถนำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมและแสดงถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งในการขยายธุรกิจของบริษัทไปยังตลาดต่างประเทศ
“ เรายังคงทุ่มเทในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และการคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ไทย เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมในตลาดโลก” คุณเพ็ญสิริ ณ นครพนม กล่าว