อว. ชูแพลตฟอร์มใหม่ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ

News Update

อว.จัดทำแพลตฟอร์มการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ เผยข้อมูลหลังลงพื้นที่สำรวจแบบปูพรม 8 เดือน ใน 10 จังหวัดยากจนที่สุด พบตัวเลขคนจนใหม่เพิ่มจาก 75,873 ครัวเรือน เป็น 89,710 ครัวเรือน เตรียมนำไปปรับฐานข้อมูล TPMAP และขยายเพิ่มพื้นที่สำรวจเป็น 20 จังหวัด

             เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) แถลงผลงานวิจัย โครงการพัฒนาระบบสนับสนุนการทำงานเชิงพื้นที่เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ภายใต้ แพลตฟอร์มการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อตอบคำถาม “คนจนคือใคร-อยู่ที่ไหน-จนเพราะอะไร-จะพ้นความจนได้อย่างไร” เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง 

             ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก  เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.  กล่าวว่า อว. ได้จัดทำ “แผนงานการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาคนจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ” ขึ้น เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ (Personalize poverty alleviation: PPA) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบและกลไกการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และเพื่อให้มีการใช้ความรู้และเทคโนโลยีจากงานวิจัยและนวัตกรรมของ อว. มาแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างตรงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ สกลนคร มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 10 จังหวัดที่มีรายได้ครัวเรือนต่ำสุด

             ทั้งนี้ อว.มีแนวทางสำคัญ 3 ประการในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จ ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คือ 1.สำรวจ สอบทาน ชี้เป้าคนจนให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน 2.พัฒนากระบวนการมีส่วนร่วม เป็น แพลตฟอร์มปฏิบัติการแก้จน เป็นกลไกและภาคีร่วมของภาครัฐ สถาบันวิชาการ ชุมชน ประชาสังคม และภาคธุรกิจ และ 3.นำความรู้งานวิจัย ผสานกับความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาตัวแบบปฏิบัติการแก้จนให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเมื่อทำการสำรวจแบบปูพรม งานวิจัยเชิงพื้นที่สามารถชี้เป้าคนจน และส่งต่อความช่วยเหลือหรือนำเอางานวิจัยและนวัตกรรมมาช่วยแก้ปัญหาคนจนอย่างตรงเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือคนจนให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบความช่วยเหลือและส่งต่อให้ได้มากที่สุด สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

             “ผลการขับเคลื่อนแผนงานนี้ใน 10 จังหวัดนำร่อง ในระยะเวลา 8 เดือน จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาเชิงลึกของความยากจน เปรียบเทียบจากฐานข้อมูล TPMAP  ด้วยความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา ภาคประชาสังคม และหน่วยงานรัฐในพื้นที่ในการลงพื้นที่สำรวจ วิเคราะห์สภาพปัญหาเชิงลึกของความยากจน สร้างกลไกการเลือกกลุ่มเป้าหมายและตรวจสอบคนจน และทุนของคนจนในพื้นที่รายครัวเรือนและรายชุมชนพบว่าเพิ่มจาก 75,873 ครัวเรือน เป็น 89,710 ครัวเรือน แยกเป็นรายบุคคลจาก 131,040 คน เป็น 334,153 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564) และการสำรวจนี้ยังทำให้ทราบถึงต้นทุนที่จะนำมาพัฒนาตนเองของแต่ละบุคคล ซึ่งทำให้เราสามารถนำเครื่องมือที่ อว. มีไปพัฒนาคนได้อย่างตรงจุด ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของกลไกความร่วมมือในพื้นที่ โดย อว.ได้ส่งต่อข้อมูลให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับจังหวัดเพื่อการแก้ไขปัญหาแบบตรงเป้าและยั่งยืน” รมว.อว. กล่าว

             ด้าน ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผอ.หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการนี้คือ การใช้พลังของสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ ไปสร้างความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย โดยทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 10 จังหวัดนำร่อง ตั้งแต่เริ่มโครงการ และใช้ภาคประชาสังคมกับองค์กรชุมชนเข้ามาช่วยหนุนกระบวนการ ใช้ฐานข้อมูล ของ TPMAP มาเป็นตัวข้อมูลพื้นฐานในการค้นหาและสอบทาน

             “แผนงานวิจัย นวัตกรรมครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการทำวิจัยในประเทศไทย  ด้วยการระดมสรรพกำลังทั้งหมดของกระทรวง โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ ใช้คนกว่า 2 พันคน พร้อมทั้งลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงคนจนทุกที่อยู่ในฐานข้อมูล โดยใช้กระบวนการชุมชนเข้าไปค้นหาร่วมกันแบบมีส่วนร่วม   ตอนนี้เกิดนวัตกรรมเรียกว่า “ระบบค้นหาและสอบทานข้อมูลคนจนรายครัวเรือน” และ “ข้อมูล Dashboard ของคนจนรายครัวเรือนและคนจนรายคนใน 10 จังหวัดยากจน “

             แผนงานดังกล่าวถือเป็นแพลตฟอร์มใหม่ของประเทศไทย ที่มีการนำงานวิจัยและนวัตกรรมที่ผ่านกระบวนการความร่วมมือกับกลไกในพื้นที่ โดยเอาปัญหาของพื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อหาคำตอบว่า “คนจนคือใคร-อยู่ที่ไหน-จนเพราะอะไร-จะพ้นความจนได้อย่างไร” เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมทั้งในกลุ่มคนจน 20% ล่าง (คนจนยากไร้) และกลุ่มคนจน 20% บน (คนจนเข้าไม่ถึงโอกาส/คนจนหนี้สิน) ด้วยการเข้าไปค้นหาและเก็บข้อมูลคนจนในพื้นที่จริงเพื่อให้ได้ข้อมูลจริง แล้วสร้างระบบการคัดกรองและช่วยเหลือคนจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ทั้งการเชื่อมต่อกับระบบความช่วยเหลือของภาครัฐและเอกชน เช่น การส่งต่อข้อมูลของคนจนยากไร้ ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไปยังหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือในระดับจังหวัด เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ระดับจังหวัด

             ผอ.บพท.กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2564 อว. มีแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนระบบความช่วยเหลือและติดตามให้คนจนสามารถหลุดพ้นปัญหาความยากจนอย่างเป็นรูปธรรม และจะขยายพื้นที่เป้าหมายจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 20 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ บุรีรัมย์ นราธิวาส อุบลราชธานี ลำปาง พัทลุง นครราชสีมา ร้อยเอ็ด พิษณุโลก เลย และยะลา เพื่อให้เกิดการขยายผลและต่อยอดการขับเคลื่อนโครงการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาคนจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ โดย บพท. จะมีการจัดเวทีแถลงผลการดำเนินงานแผนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ประจำปีงบประมาณ 2564 และพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับกระทรวงและระดับหน่วยงาน ของ อว. กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เวลา 08.30 – 13.30 น. ณ ห้องกมลทิพย์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล