เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi 14T Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมาพร้อมแนวคิด Master light, capture night เสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี Advanced AI
เมื่อ 27 กันยายน 2567 เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi 14T Series ที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพทั้งกลางวันและกลางคืนภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Master light, capture night” อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี Advanced AI ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดย Xiaomi 14T Series พร้อมให้ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนจอพับ Xiaomi MIX Flip และผลิตภัณฑ์ AIoT ได้แก่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Xiaomi Smart Band 9 หูฟังรุ่นใหม่ 2 รุ่น Xiaomi Buds 5 และ Xiaomi OpenWear Stereo ที่ใส่สบายในดีไซน์ที่แตกต่างกัน พร้อมด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ 2 รุ่น Xiaomi Robot Vacuum X20 Max และ Xiaomi Robot Vacuum X20 Pro
สำหรับ สมาร์ทโฟน Xiaomi 14T Series ที่มาภายใต้คอนเซ็ปต์ Master light, capture night ประกอบด้วย
Xiaomi 14T Pro ที่มาพร้อมกล้องสามตัวที่ครอบคลุมความยาวโฟกัส 5 ระยะ ตั้งแต่ 15 มม. ถึง 120 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมความละเอียด 50MP รูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/1.6 และเลนส์ออปติคอล Summilux รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Leica ที่ถูกจับคู่กับเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 อีกด้วย นอกนี้ Xiaomi 14T Pro ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.31 นิ้ว, Dual Native ISO Fusion Max และช่วงไดนามิกสูง 13.57EV จึงทำให้สามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ในขณะที่ Xiaomi 14T มีเซ็นเซอร์ IMX906 ขั้นสูงจาก Sony และกล้องสามตัวที่ครอบคลุมความยาวโฟกัส 4 ระยะ ตั้งแต่ 15 มม. ถึง 100 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมความละเอียด 50MP รูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/1.7 และเลนส์ออปติคอล Summilux รุ่นล่าใหม่สุด จาก Leica ที่มอบสีสันสดใสและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาวะแสงน้อย พร้อมด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่มีระยะโฟกัสเทียบเท่า 15 มม. ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์นั้นคมชัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Xiaomi 14T Series ยังมีความสามารถในการถ่ายวิดีโอ โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับโหมดภาพยนตร์ซึ่งมีค่าเริ่มต้นของอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 2.39:1 และรองรับการสลับ Cinematic Blur และ Rack Focus เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่เหมือนกับภาพยนตร์ พร้อมกันนี้โหมด Director ยังมาพร้อมอินเทอร์เฟซการถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพพร้อมการควบคุมพารามิเตอร์ขั้นสูง ในขณะเดียวกันระบบ MasterCinema ก็จะทำการบันทึกวิดีโอแบบ HDR Rec.2020 10 บิต และรองรับการถ่าย 4K ที่ 30fps โดยจะทำให้สามารถบันทึกรายละเอียดของแสงและเงาได้ดีขึ้นและได้ช่วงไดนามิกที่ใกล้เคียงกับการมองเห็นของมนุษย์มากที่สุด
ทั้งนี้ Xiaomi 14T Series ได้ร่วมมือกับ Google และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ด้วยการใช้ Advanced AI ไม่ว่าจะเป็น การค้นหา เสียง ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ เพื่อปรับปรุงให้การใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดย Xiaomi 14T Series นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Circle to Search with Google ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่เห็นบนโทรศัพท์มือถือได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอพ รวมไปถึง Google Gemini ที่ให้คุณพูดคุยกับ Gemini เพื่อช่วยเขียน เรียนรู้ วางแผนและอื่นๆอีกมากมาย ส่วนในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตัวอุปกรณ์นั้นมาพร้อมกับ AI Interpreter ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเอาชนะอุปสรรคทางด้านภาษาเพื่อปรับปรุงการสื่อสารระหว่างการประชุมหรือการโทรสนทนา ได้อย่างง่ายดาย และยังมาพร้อม AI Notes และ AI Recorder ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการถอดเสียงพูดเป็นข้อความ การจดจำผู้พูดได้อย่างแม่นยำ และการสรุปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การแปลแบบเรียลไทม์เองก็จะเข้ามาช่วยให้การโต้ตอบหลายภาษาเป็นไปได้อย่างราบรื่น และในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพของความสร้างสรรค์ Xiaomi 14T Series เองก็มาพร้อมกับ AI Image Editing ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับในการเล่าเรื่องด้วยภาพขึ้นไปอีกขั้น ส่วน AI Eraser Pro จะช่วยลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการออกไปเพื่อให้ ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด และ AI Film เองก็จะช่วยให้การสร้างสรรค์วิดีโอสั้นแบบภาพยนตร์นั้นเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง AI Portrait ที่จะสร้างอวตารเฉพาะตัวที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงตัวตนในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างง่ายดายมากกว่าเดิมอีกด้วย
อย่างไรก็ดี Xiaomi 14T Series มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED CrystalRes ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712 x 1220) ด้วยความหนาแน่นของพิกเซลที่ 446 ppi ความลึกของสี 12 บิต ครอบคลุม DCI-P3 และความสว่างสูงสุด 4,000 nits9 พร้อมอัตรารีเฟรช 144Hz10 โดยตัวหน้าจอแสดงผลแบบ AI รุ่นใหม่นี้จะทำการปรับอุณหภูมิของสีและความสว่างอย่างชาญฉลาดตามสภาพแวดล้อมรวมไปถึงเวลาของการใช้งานเพื่อให้คุณรู้สึกสบายตามากที่สุด พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีจาก Dolby Atmos® อีกด้วย
Xiaomi 14T Pro ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์เรือธง MediaTek Dimensity 9300+ อันทรงพลัง โดยสามารถบูสประสิทธิภาพของ CPU แบบมัลติคอร์ให้ขึ้นไปถึง 37%11 และเมื่อจับคู่กับ GPU Immortalis-G720 ก็จะได้ประสิทธิภาพของกราฟิกที่ดีขึ้นถึง 44%11 จึงทำให้ทั้งแอพพลิเคชัน AI และการเล่นเกมนั้นราบรื่นขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ Xiaomi 14T Pro ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงด้วย Xiaomi Surge T1 Tuner ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อนั้นมีความเสถียรและคุณภาพเซลลูลาร์นั้นดียิ่งขึ้น รวมไปถึงระบบ Xiaomi 3D IceLoop ที่จะเข้ามาช่วยจัดการระบบระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การใช้งานของเหล่าเกมเมอร์และผู้ใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นราบรื่นอย่างไร้กังวล
ส่วน Xiaomi 14T นั้นใช้โปรเซสเซอร์ AI รุ่นใหม่ล่าสุดจาก MediaTek Dimensity 8300-Ultra โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพของ CPU ที่เพิ่มขึ้นถึง 20% และประสิทธิภาพของ GPU ที่ดีขึ้นถึง 60%12 สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยการใช้พลังงานที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้วอีกด้วย
Xiaomi 14T Series มาพร้อมแบตเตอรี่อันทรงพลังขนาด 5000mAh โดยที่ Xiaomi 14T Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกใน Xiaomi T Series ที่มาพร้อมการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งมาพร้อมการชาร์จไร้สาย 50W และ HyperCharge 120W13 โดยสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 19 นาที2 เท่านั้น ในขณะที่ Xiaomi 14T มาพร้อมกับการชาร์จเร็วด้วย HyperCharge 67W14
Xiaomi 14T Series สะท้อนความโดดเด่นด้วยดีไซน์โลหะสุดล้ำสมัย โดยมาพร้อมขอบจอที่บางเป็นพิเศษเพียง 1.7 มม. เท่านั้นจึงช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองอุปกรณ์ยังรองรับมาตรฐาน IP6815 ในการกันน้ำและกันฝุ่น ทั้งนี้ Xiaomi 14T Pro ยังมาพร้อมกับกรอบโลหะอันประณีตและหรูหรา ที่มอบความยืดหยุ่นทนทานต่อการงอและเสียหายมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 116%2 อีกด้วย
Xiaomi 14T Series พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T
สำหรับสมาร์ทโฟนจอพับ Xiaomi MIX Flip ในสโลแกน Fliptastic
Xiaomi MIX Flip โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ All Around Liquid outer display ขนาด 4.01 นิ้ว พร้อมด้วยหน้าจอโค้งทั้งสี่ด้านที่มีความละเอียด 1.5K อัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 3,000nits โดยตัวอุปกรณ์นั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ราบรื่นไม่มีสะดุดทั้งบนหน้าจอด้านในและด้านนอก รวมไปถึงจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่นการดู เวลา สภาพอากาศ และการแจ้งเตือนแอปต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Xiaomi MIX Flip ยังมาพร้อมกับเลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica และเซ็นเซอร์ Light Fusion 800 ไดนามิกสูงที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงามและเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดอันโดดเด่น รวมไปถึงกล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 47 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสได้ในระยะที่ใกล้ถึง 9 ซม. นอกจากนี้แพลตฟอร์มการถ่ายภาพ Xiaomi AISP พลังประมวลผล 60TOPS ยังจะช่วยให้คุณสามารถจัดการสถานการณ์การถ่ายภาพที่ซับซ้อนให้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก Xiaomi MIX Flip นั้นขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8 Gen 3 Mobile Platform อันทรงพลังและระบบระบายความร้อน 3D อันล้ำสมัยที่จะช่วยกระจายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมรวมไปถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4780mAh
ทั้งนี้ Xiaomi MIX Flip มาพร้อมกับโครงสร้างด้านหลังที่ทำจากกระจกพรีเมียมและกรอบอะลูมิเนียมอัลลอยด์ 6M42 ที่มีความแข็งแรงสูงจึงทำให้มีการปกป้องอันเป็นเลิศและในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษารูปลักษณ์อันเพรียวบางเอาไว้ได้ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก SGS ว่าสามารถรองรับการพับได้มากถึง 500,000 ครั้ง และยังถูกเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกด้วยกระจก Xiaomi Shield Glass ที่ช่วยเพิ่มความทนทานได้มากขึ้นถึง 10 เท่า18 เพื่อให้คุณมั่นใจได้ถึงการใช้งานที่ทนทานและยาวนาน
Xiaomi MIX Flip มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Purple ในรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 39,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi MIX Flip ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2567 รับฟรี! Xiaomi Smart Band 9 และ VIP Services ต่างๆ รวมมูลค่าของสมนาคุณ 21,485 บาท