“ การดูแลสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายโดยเฉพาะจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ”
หนึ่งในบทสรุป … ผลจากการศึกษาเรื่อง Gut Microbiome หรือระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วโลกต่างให้ความสนใจในการศึกษาความสัมพันธ์และบทบาทของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของคนเราอย่างต่อเนื่อง
และได้มีการศึกษาวิจัยด้าน Gut Microbiome ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์แบบเฉพาะตัวบุคคลเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โรคบางชนิดอาจเกิดจากความไม่สมดุลของกลุ่มจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร หรือมีจุลินทรีย์บางชนิดที่เพิ่มจำนวนอย่างผิดปกติ การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของจุลินทรีย์ ในระบบทางเดินอาหาร สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ได้ โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพของผู้ป่วย ทำให้วิธีการดังกล่าวกลายเป็นที่ยอมรับ และพัฒนาให้เป็นแนวทางในการรักษา หรือป้องกันโรคเฉพาะบุคคลได้
ด้วยความสำคัญของ Gut Microbiome “ บริษัทมดกัต จำกัด” ดีฟเทคสตาร์ทอัพสัญชาติไทย จึงเกิดขึ้น โดยนำผลการศึกษาจากความเชี่ยวชาญของนักวิจัยด้านไมโครไบโอม (Microbiome) มาต่อยอดเป็นชุดตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้เพื่อการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางของฐานข้อมูลความรู้ด้านจุลินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน
บริษัทมดกัต จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2564 ภายใต้การบ่มเพาะจาก “ ANT Accelerator” ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่เป็นแกนหลักในการดำเนินงานและสนับสนุนทุนพัฒนาดีฟเทคสตาร์ทอัพไทย ในช่วง Pre venture building
คุณนิจพร จงอุดมฤกษ์ CEO บริษัทมดกัต จำกัด เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของมดกัต ว่า เกิดจากทีมนักวิจัยไมโครไบโอม นำโดย “ รศ.ดร. สุภาภรณ์ ชีวะธนรักษ์” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งค้นพบความลับของกลุ่มจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร (Gut Microbiome) ที่มีความเชื่อมโยงกับสุขภาพของมนุษย์ โดย รศ.ดร. สุภาภรณ์ และทีมวิจัย ได้เข้าร่วมการตรวจจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารกับโครงการ “ American Gut Microbiome” มีการส่งตัวอย่างอุจจาระของคนไทย ประมาณ 10 ตัวอย่าง ไปยังโครงการดังกล่าวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลการตรวจโดยใช้ฐานข้อมูลจุลินทรีย์ของอเมริกา พบว่า ตัวอย่างของคนไทยมีรูปแบบของกลุ่มจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ที่แตกต่างจากกลุ่มคนเชื้อชาติอื่นๆ ซึ่งมีวัฒนธรรมในเรื่องการรับประทานอาหารที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารแบบตะวันตก และมีการค้นพบที่น่าสนใจ คือ รูปแบบจุลินทรีย์ของคนไทยบางคนมีความคล้ายคลึงกับรูปแบบจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารของคนอ้วน ทั้งที่จริงๆ แล้วคนไทยคนนั้นไม่ได้เป็นคนอ้วนเลย
ทำให้สามารถสรุปได้ว่า รูปแบบจุลินทรีย์ของคนไทย และคนในภูมิภาคอื่นๆ นั้นมีความแตกต่างกัน เนื่องด้วยปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะรูปแบบของอาหารที่รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความแม่นยำในการตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ ฯ ทีมนักวิจัยจึงมุ่งหวังที่จะสร้างฐานข้อมูล และองค์ความรู้เกี่ยวกับจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารของคนไทยและในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะ เพื่อที่จะดูแลสุขภาพของคนไทยและอาเซียนได้อย่างเหมาะสม จึงได้ดำเนินโครงการการตรวจกลุ่มจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ของบุคลากร และนักศึกษาใน มจธ. และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการมดกัต และได้สปินออฟ (Spin Off) ออกมาจัดตั้งเป็น บริษัท มดกัต จำกัด ในเวลาต่อมา
…หลังจากก่อตั้งเป็นบริษัทในปี 2564 ได้มีการต่อยอดองค์ความรู้ออกมาเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ คือ ชุดตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ และผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก…
“ โดยชุดตรวจวิคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ จะเหมือนกับการตรวจเลือด แต่เปลี่ยนเป็นตรวจอุจจาระ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ออกมาจากลำไส้ แล้วนำมาผ่านกระบวนการการวิเคราะห์หาลำดับดีเอ็นเอ (DNA Sequencing) ของจุลินทรีย์ ซึ่งเหมือนกับการหาลำดับดีเอ็นเอของมนุษย์ มีการใช้เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจวัดยีน 16 S rRNA เครื่องเดียวกันกับการตรวจดีเอ็นเอในมนุษย์ ซึ่งจะบอกได้ว่าเจ้าของตัวอย่างที่นำมาตรวจ มีภาวะเจอจุลินทรีย์ตัวใดบ้าง เป็นจุลินทรีย์ตัวร้ายหรือตัวดีมากน้อยแค่ไหน ทำให้สามารถประเมิน และทำนายการเกิดโรคบางอย่างได้ “
สำหรับจุดเด่นของชุดตรวจ ฯ ที่พัฒนาขึ้นนี้ คุณนิจพร บอกว่า นอกจากบริษัทจะมีองค์ความรู้ที่นักวิจัยค้นพบและฐานข้อมูลที่เป็นจุลินทรีย์ในลำไส้ของคนไทยแล้ว บริษัทได้มีการต่อยอดงานวิจัยโดยลงทุนพัฒนาอัลกอริทึ่ม หรือขั้นตอนในการนำข้อมูลมาแปรผล เพื่อเป็นแพลตฟอร์มของการให้บริการตรวจวิเคราะห์ ที่สะดวกและรวดเร็ว และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสั่งซื้อ ลงทะเบียน การรับตัวอย่างส่งตรวจผ่านไปรษณีย์ การรับข้อมูลจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีการตรวจและวิเคราะห์จากฐานข้อมูลจุลินทรีย์ที่เป็นบิ๊กดาต้าขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถที่จะใช้มนุษย์ในการอ่านข้อมูลหรือแปรผลได้ การประมวลผล รายงาน จนถึงการส่งผลตรวจทางอีเมล์ให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งจะเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด
ทั้งนี้ในส่วนของฐานข้อมูลปัจจุบันที่มีเกือบ 1 หมื่นตัวอย่าง ครอบคลุมตัวอย่างที่หลากหลาย ซึ่ง “มดกัต” ได้มีความร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจาก รพ.รามา ฯ รพ.จุฬาฯ รพ.ศิริราชฯ ม.สงขลานครินทร์ ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ และ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งแต่ละแห่งจะทำการศึกษาวิจัยในแต่ละโจทย์ที่แตกต่างกัน เช่น การทำงานกับผู้ป่วยไขมันฟอกตับ เพื่อดูรูปแบบของจุลินทรีย์ว่าเปลี่ยนไปอย่างไร และสัมพันธ์กับการทานอาหารแบบไหน การทำงานร่วมกับผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยมะเร็งตับ รวมถึงการวิจัยแปรผลการปลูกถ่ายอุจจาระ เป็นต้น
ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนี้ถือเป็นฐานข้อมูลสำคัญของคนไทย และตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางของฐานข้อมูลความรู้ด้านจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต
นอกจาก”ชุดตรวจวิคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้” แล้วจากการศึกษาของทีมวิจัยจนรู้ว่าจุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์ทำงานอย่างไร มดกัต ได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก หรือ ฟังชันนัลไบโอติก สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ จำนวน 4 สูตร โดยสูตรแรก เน้นการช่วยปรับความสมดุลลำไส้ ทำให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น สูตรสองช่วยลดอาการภูมิแพ้ ผื่นคันต่าง ๆ สูตรสามช่วยเรื่องการผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และสูตรสุดท้ายเป็นเรื่องการลดน้ำหนักและลดไขมันตับ ทั้ง 4 สูตรนี้ เป็นการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ในร่างกาย ซึ่งเป็นธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี และมีงานวิจัยรองรับในทุกผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ดีสำหรับแผนการดำเนินการต่อไป “มดกัต” จะต่อยอดบริการการตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ ไปสู่วิธีการแก้ไขด้วยการกินอาหารที่ถูกต้องแบบเฉพาะรายบุคคล ซึ่งจะมีการออกอัลกอริทึมใหม่ในปีหน้า และอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาจุลินทรีย์สำหรับใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งเป็นไปตามโรดแมปของบริษัท และโรดแมปของบริษัทด้านไมโครไบโอมทั่วโลก ด้วยตลาดนี้มีการเติบโตสูงถึง 20-30 % ต่อปี และเป็นเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง .