บพข. หนุนสร้างเครือข่ายฯ พัฒนา AI ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำระดับโลก

Cover Story

         เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI  เป็นเทคโนโลยีที่หลายประเทศนำไปประยุกต์ใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และปัจจุบันได้เข้ามาใกล้กับการใช้ชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นทุกที ด้วยความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีนี้  ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญ สร้างงานวิจัยและพัฒนา เพื่อรองรับการเข้ามาของเทคโนโลยี และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย  

         … เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี AI โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายสถาบันการศึกษา ภายใต้สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงภาครัฐ และภาคเอกชน เมื่อเร็ว ๆ นี้  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์  (AI Engineering Institute; AIEI) ภายใต้เครือข่ายความร่วมมือ 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงาน  “ AI Engineering & Innovation Summit 2024”  ขึ้นเป็นปีที่  2 ภายใต้แนวคิด “Generating  the Future with Generative AI” โดยมี นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์  เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เป็นประธานเปิดงาน ฯ  

         นางสาวสุชาดา กล่าวว่า  การจัดงาน Al Engineering & Innovation Summit 2024 เป็นการรวมตัวกันของผู้นำด้านเทคโนโลยี  AI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ สำรวจพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและศักยภาพของ AI  แสดงให้เห็นถึง แนวโน้มในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งการประยุกต์ใช้AIในด้านต่าง ๆ งานดังกล่าวจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันผลักดันและพัฒนาเทคโนโลยี AI  ซึ่งจะเป็นก้าวที่สำคัญในการกำหนดอนาคตของประเทศไทย  ทั้งนี้  AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยี  แต่ยังเป็นหนทางในการสร้างอนาคตที่เท่าเทียมกันและยั่งยืนมากขึ้น  การให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการศึกษา การส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรม การปรับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ  AI  และการปรับกลยุทธ์ระดับชาติให้สอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านี้ จะทำให้ประเทศไทย มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้าน AI  ได้อย่างแท้จริง  

         ด้าน รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์   ผู้อำนวยการ บพข. เปิดเผยถึงบทบาทของ บพข. ในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจากเทคโนโลยี AI ว่า บพข. จะร่วมขับเคลื่อนนโยบาย อว. For AI  โดยจะเป็นหน่วยงานที่ให้ทุนสนับสนุนการจัดทำโครงการด้าน AI for education Tech โดยที่ผ่านมา บพข.โดยแผนงานดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้านดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ และเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดังนี้  1. ดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ    2.  การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารมูลค่าสูงสมัยใหม่  3. ในด้านสุขภาพการแพทย์ ได้แก่ AI assistant system in diagnostic (Radiology), Tele-health และ Tele-medicine เป็นต้น  4. ในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้แก่ การสร้างธุรกิจบน Metaverse platform, AR/VR หรือดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยุคใหม่, อัลกอริทึม และ Applications เพื่อสนับสนุนธุรกิจบริการ เป็นต้น  5. ในด้านการผลิต เพื่อลดต้นทุน หรือเพิ่ม Productivity  และ  6. เพื่อรองรับ Emerging technologies ได้แก่ เทคโนโลยี AI ใน Autonomous vehicle, Edge AI, และ Cyber security เป็นต้น

          “ ตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2563 – 2567 บพข.ได้ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยด้าน AI  ไปแล้ว  98   โครงการ  โดยเป็น pure AI   จำนวน  7 โครงการ  สำหรับในปีงบประมาณ 2568 นี้ ในแผนงานดิจิทัลแพลตฟอร์มจะมุ่งเน้นเทคโนโลยี AI  ในเรื่องของ Infrastructure for AI, AI for intelligence Manufacturing, AI for Digital Health, AI for Digital Tech as a Services และ  AI for Smart City ”

          สำหรับการจัดงาน Al Engineering & Innovation Summit 2024  ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเครือข่ายสถาบันการศึกษาภายใต้สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์  (AIEI)  มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์  นายกสภามหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล  กล่าวว่า มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล เป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน สหรัฐอเมริกา และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)  โดยเป็นวิทยาเขตต่างประเทศแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

         ที่ผ่านมาได้มีบทบาทในการเป็นผู้นำสร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในประเทศไทย ที่วิจัยพัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในด้านต่างๆ  เช่น ด้านการแพทย์ ที่ในช่วงโควิด-19  ได้มีการใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ของมหาวิทยาลัย ฯ ในการระบุสายพันธุ์ SAR-Cov2  ของโควิด  และการระบุตำแหน่งการระเหิด RF สำหรับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพื่อรักษาโรคหัวใจ  ด้านการเกษตร มีการพัฒนาการตรวจจับพฤติกรรมสุกรด้วยเซ็นเซอร์ เพื่อสนับสนุน ปัญญาประดิษฐ์สำหรับเกษตรอัจฉริยะ  และการวิจัยเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะสำหรับผู้พิการ  และการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

           อนาคต …  สถาบันฯ  มีแผนการดำเนินงานที่น่าสนใจต่าง ๆ เช่น   ความร่วมมือกับโรงพยาบาลเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  ในการพัฒนาเป็นโรงพยาบาลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI แห่งแรกของประเทศไทย   การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเครือข่ายสร้างวิศวกรและนักวิจัย  มากถึง 15,000 คนใน 5  ปี  การสร้างระบบที่เอื้อให้เกิดการใช้ทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาทักษะและนวัตกรรม AI ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย  การพัฒนา AI  สำหรับเมืองอัจฉริยะ  และโครงการ  GPU Cloud Credits สำหรับสตาร์ทอัพ พร้อมเงินทุน 1แสนบาท เพื่อทดลองและพัฒนาAI

          อย่างไรก็ดี ภายในงาน  Al Engineering & Innovation Summit 2024  Al Engineering & Innovation Summit 2024  ได้มีการแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มปัจจุบันในด้าน AI ผ่านการบรรยายและอภิปรายจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา พร้อมทั้งนำเสนอผลงานวิจัย และพัฒนาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ภายใต้เครือข่าย AIEI

          นอกจากนี้ยังมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)ระหว่าง สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ กับ  3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) รวมกันเป็นเครือข่าย 9 มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมพัฒนางานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ และเปิดโอกาสให้ใช้ทรัพยากรระหว่างมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาอย่างสูงสุด

         และความร่วมมือกับอีก 2 หน่วยงาน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (Federation of Thai Industries – FTI) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนการใช้งาน และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับ SME ในเครือข่ายของ FTI และสยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น (Siam AI Cloud) เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการวิจัย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ เหล่านี้ ล้วนนับเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือด้านวิชาการและนวัตกรรม AI อีกด้วย.