“Sulfite Sniffer” เครื่องมือวัดสารกันเสียซัลไฟต์ฯ ผลงานนักวิจัยไทยช่วยยกระดับความปลอดภัยในอาหาร

เวทีวิจัย

บพข.หนุนทีมวิจัยม.มหิดลฯ พัฒนา “Sulfite Sniffer”  เซนเซอร์พร้อมเครื่องวัดสารกันเสียซัลไฟต์ตกค้างในกุ้งและอาหารทะเลแช่แข็ง อ่านผลได้เร็วใน 3 นาที ขั้นตอนใช้งานง่าย ไม่ต้องแยกสกัด หัววัดคงทนและมีอายุการใช้งานนาน 1 ปี สามารถทดแทนการนำเข้า ช่วยยกระดับความปลอดภัยในอาหาร

        ปัจจุบัน  “สารซัลไฟต์”   ซึ่งมีคุณสมบัติในการถนอมอาหาร ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ ยีสต์ รา และแบคทีเรีย  และยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสีของอาหาร ทำให้มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง  

        แต่เนื่องจาก  “สารซัลไฟต์” เป็นสารก่อภูมิแพ้  หากการบริโภคสารดังกล่าวมากเกินไปจะก่ออันตรายให้กับร่างกายได้ หลายประเทศจึงกำหนดให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารแสดงข้อมูลบนฉลากของผลิตภัณฑ์  กรณีใช้หรืออาจปนเปื้อนสารในกลุ่มซัลไฟต์ในกระบวนการผลิต  ซึ่งประเทศไทยตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อกำหนดว่าการใช้ สารซัลไฟต์ ในรูปของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำแช่แข็ง ไม่ควรมีปริมาณเกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

        ที่ผ่านมานักวิจัยทั่วโลกได้มีการพัฒนาเทคนิคการวิเคราะห์ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ในรูปแบบต่าง ๆ  อย่างเช่น  นวัตกรรมดั้งเดิมของกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) รุ่น Biofish 300 SUL ที่เป็นแบบไบโอเซนเซอร์ พัฒนาโดยกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีการนำไปต่อยอด เป็นเครื่องมือตรวจวัดวิเคราะห์ซัลเฟอร์ในอาหาร ออกจำหน่ายในปัจจุบัน

        อย่างไรก็ดี นวัตกรรมการตรวจวิเคราะห์ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่มีอยู่ในท้องตลาด ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานต่าง ๆ อย่างเช่น  ต้องจัดเก็บหัววัดแบบแช่เย็น ต้องแช่น้ำก่อนใช้งานครั้งแรกเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงและมีอายุการใช้งานเพียง 15 วัน  และก่อนทำการวัดต้องมีขั้นตอนการสกัดเสียก่อน  

        จากข้อจำกัดดังกล่าว ทำให้กลุ่มวิจัย จาก มหาวิทยาลัยมหิดล  ร่วมกับ  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัท Diamond Pi  พัฒนา นวัตกรรม “ เซนเซอร์พร้อมเครื่องวัดสารกันเสียซัลไฟต์ตกค้างในกุ้งและอาหารทะเลแช่แข็ง รุ่น  Sulfite Sniffer V2023 ”  ขึ้น  โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)  แผนงานอาหารมูลค่าสูง  ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

        “รศ.ดร.กาญจนา อุไรสินธว์”  จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า   ต้นแบบ  “Sulfite Sniffer V2023”  เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่กลุ่มวิจัยพัฒนาขึ้น โดยเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้วัดระดับสารซัลไฟต์  ซึ่งปกติต้องเฝ้าระวังมิให้มีตกค้างในผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งเกินกว่าระดับมาตรฐานที่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายของทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก

        การพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวใช้หลักการวัดเป็นแบบ “Sniff technology” ของไอระเหย โดยเครื่องมีน้ำยาเคมีที่แปลงซัลไฟต์ในตัวอย่างอาหารให้กลายเป็นสารระเหยแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เซนเซอร์ที่ติดตั้งไว้บนฝาปิดตรวจจับสารระเหยนี้ และอ่านเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับความเข้มข้นของสารกันเสียในอาหาร

        สำหรับจุดเด่นของ  “Sulfite Sniffer V2023”  คือสามารถอ่านผลเร็วใน 3 นาที และไม่มีขั้นตอนแยกของการสกัด หัววัดคงทน มี shelf-life อย่างน้อย 1 ปี ไม่ต้องกระตุ้น ไม่ต้องแช่เย็นก่อนใช้งาน  และเนื่องจากใช้ Sniff technology ตรวจวัดสารในรูปของไอระเหย  จึงปราศจากตัวรบกวนในตัวอย่างอาหาร ทำให้ใช้ต่อเนื่องได้อย่างน้อย 500 ครั้งขึ้นไป

        ทั้งนี้งานวิจัยมีความพร้อมทางเทคโนโลยีอยู่ในระดับ TRL-4  สามารถพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ โดยมีต้นทุนต้นทุนการผลิตต่ำกว่าแบบไบโอเซนเซอร์ 10 เท่า  สามารถใช้เทคโนโลยีในประเทศไทยสร้างและผลิตได้ครั้งละจำนวนมาก  สามารถทดแทนการนำเข้าเครื่องมือวัดสารกันเสียซัลไฟต์จากต่างประเทศ

        นักวิจัยคาดหวังว่าภาครัฐจะให้การสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีการวิเคราะห์ความปลอดภัยของอาหารเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทย และผลักดันแนวทางวิจัยให้ได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับในการตรวจสอบคุณภาพอาหารของไทยและสามารถใช้ในระดับสากลได้มากขึ้น.