10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์น่าติดตามปี 2568

Cover Story

            เป็นประจำทุกปี…ที่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)  หรือ สดร.( NARIT) จะรวบรวมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าติดตามในแต่ละปี มาฝากผู้ที่สนใจปรากฎการณ์บนท้องฟ้า   

           และในปี 2568 นี้ สดร.ได้คัดสรร 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามมาฝากชาวไทย ซึ่งจะมีทั้งจันทรุปราคาเต็มดวง ดาวอังคารใกล้โลก ดาวศุกร์สว่างที่สุด ดาวเสาร์ไร้แหวน ดวงจันทร์ใกล้ – ไกลโลก รวมถึงฝนดาวตก และดาวเคียงเดือน ก็มีให้ติดตามชมได้ตลอดปี

ดาวอังคาร (Cr. ESA)

           เริ่มจากปรากฏการณ์แรกของปี คือ  “ดาวอังคารใกล้โลก” และ “ดาวอังคารอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์”  ในคืนวันที่ 12 มกราคม 2568  ดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ตำแหน่งใกล้โลกที่สุด ระยะห่างประมาณ 96 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะโคจรไปอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์วันที่ 16 มกราคม 2568  ช่วงดังกล่าวสามารถสังเกตการณ์ดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืน ปรากฏสว่างเป็นสีส้มแดงบนฟ้า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะเห็นพื้นน้ำแข็งสีขาวบริเวณขั้วของดาวอังคารได้ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 26 เดือน

           ปรากฏการณ์ต่อมาคือ “ดาวศุกร์สว่างที่สุด”  เกิดขึ้น 2 ครั้งในรอบปีนี้ ครั้งแรกช่วงหัวค่ำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568  ปรากฏสว่างเด่น เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันตก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนถึงเวลาประมาณ 21:00 น. และครั้งที่ 2   ช่วงเช้ามืดวันที่ 24 เมษายน 2568 ปรากฏสว่างเด่น เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 03:51 น. จนดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ คาดว่ามีค่าอันดับความสว่างปรากฏมากถึง -4.6 (ดวงจันทร์เต็มดวง มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ -12)

           ปรากฏการณ์ที่ 3 ที่น่าติดตาม  คือ  “ดาวเสาร์เสมือนไร้วงแหวน”  ช่วงวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2568 ดาวเสาร์จะปรากฏเสมือนไร้วงแหวน เป็นมุมมองจากโลกที่จะเห็นลักษณะนี้ทุก ๆ 15 ปี แต่ช่วงวันดังกล่าวดาวเสาร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จึงขึ้นและตกในเวลากลางวัน ส่งผลให้สังเกตการณ์ได้ยาก ผู้สนใจแนะนำชมช่วงดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปีวันที่ 21 กันยายน 2568

ดาวเสาร์ (Cr. NASA)

           ปรากฏการณ์ที่ 4  คือ“ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” วันที่ 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) จึงมีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดทั้งคืน และแม้ว่าช่วงดังกล่าวจะไม่ปรากฏเสมือนไร้วงแหวน แต่ระนาบวงแหวนยังคงมีมุมเอียงที่น้อย จึงจะเห็นเป็นดาวเสาร์พร้อมวงแหวนบาง ๆ

จันทรุปราคาเต็มดวง (Cr. NARIT)

           ปรากฏการณ์ที่ 5  คือ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ไฮไลท์ปรากฎการณ์เด่นที่น่าจับตาที่สุดในปีนี้  เป็นจันทรุปราคาเต็มดวงในไทยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบสามปี (ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2565) เกิดขึ้นในคืนวันที่ 7 – เช้ามืด 8 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 22:29 น. ถึง 03:55 น. (ตามเวลาประเทศไทย) คราสเต็มดวงเวลาประมาณ 00:31 ถึง 01:53 น. ช่วงดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏเป็นสีแดงอิฐ นาน 1 ชั่วโมง 22 นาที ประเทศไทยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าตลอดปรากกฎการณ์ 

           ปรากฏการณ์ที่ 6 คือ  ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้-ไกลโลกที่สุดในรอบปี  ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี (Micro Full Moon) ตรงกับวันที่ 13 เมษายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กว่าปกติเล็กน้อย และปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี (Super Full Moon) ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย

ฝนดาวตกเจมินิดส์

           ปรากฏการณ์ที่ 7   คือ ฝนดาวตกน่าติดตาม  ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เกิดจากโลกโคจรเข้าตัดผ่านสายธารเศษหินและฝุ่นในอวกาศที่ดาวเคราะน้อยและดาวหางทิ้งไว้ ไฮไลต์เด่นของฝนดาวตกในปี 2568 คือ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” (อัตราการตก 150 ดวงต่อชั่วโมง) คืนวันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2568 ปีนี้ไม่มีแสงจันทร์รบกวน สำหรับฝนดาวตกอื่น ๆ ตลอดปี มีดังนี้

           3 – 4 มกราคม 2568      ฝนดาวตกควอดรานติดส์ (อัตราการตก 80 ดวงต่อชั่วโมง)

           22 – 23 เมษายน 2568     ฝนดาวตกไลริดส์ (อัตราการตก 18 ดวงต่อชั่วโมง)

           5 – 6 พฤษภาคม 2568     ฝนดาวตกอีตาอควอริดส์ (อัตราการตก 50 ดวงต่อชั่วโมง)

           30 – 31 กรกฎาคม 2568`   ฝนดาวตกเดลตาอควอริดส์ (อัตราการตก 25 ดวงต่อชั่วโมง)

           21 – 22 ตุลาคม 2568    ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ (อัตราการตก 20 ดวงต่อชั่วโมง)

           17 – 18 พฤศจิกายน 2568   ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (อัตราการตก 15 ดวงต่อชั่วโมง)

           22 – 23 ธันวาคม 2568       ฝนดาวตกเออร์ซิดส์ (อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง)

ดาวเคียงเดือน (Cr. NARIT)

           ปรากฏการณ์ที่ 8 คือ ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุม  ในปี 2568 มีปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุมให้ชมตลอดทั้งปี ได้แก่ 4 ม.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 18 ม.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 1 ก.พ. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 11 เม.ย. 68 ดาวพุธเคียงดาวเสาร์ / 25 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์และดาวเสาร์ / 26 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพุธ / 29 เม.ย. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 2 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพอลลักซ์และคาสเตอร์ (ปรากฏคล้ายพระจันทร์ยิ้ม) / 23 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 24 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์ / 1 มิ.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวอังคาร / 12 ส.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก (Cr. jplenio)

           ปรากฏการณ์ที่  9 ดวงอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทย ประเทศไทยมีช่วงที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ 2 ครั้งในรอบปี ครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เริ่มจากภาคใต้ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ กรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 27 เมษายน 2568 และจบที่ภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม ส่วนครั้งที่สองอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน โดยเริ่มจากภาคเหนือปลายเดือนกรกฎาคม ไล่ลงไปจนถึงกรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2568 และจบที่ภาคใต้ในช่วงเดือนกันยายน ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ (ตั้งฉากกับประเทศไทย) จะแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ สังเกตได้จากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดีเสมือนไร้เงา

           และปรากฏการณ์ที่ 10 ฤดูกาลทางดาราศาสตร์  วันที่กำหนดฤดูกาลต่าง ๆ ของโลกในปี 2568 มีดังนี้

           – วันที่ 20 มีนาคม 2568 วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืน นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง

           – วันที่ 21 มิถุนายน 2568 วันครีษมายัน (Summer Solstice) ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว

           – วันที่ 23 กันยายน 2568 วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนนับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

           – วันที่ 21 ธันวาคม 2568 วันเหมายัน (Winter Solstice) ช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

           ผู้สนใจ…สามารถติดตามรายละเอียด ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ซึ่ง สดร.มีแผนจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตลอดทั้งปี