เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟน 4 รุ่นใหม่ “ Redmi Note 14 Series” ในไทย ชูจุดเด่นด้วยกล้อง AI ความละเอียดสูง มาพร้อมฟีเจอร์ Advanced AI สุดล้ำอย่างเช่น ช่วยขยายหรือสลับพื้นหลัง รวมถึงลบวัตถุที่ไม่ต้องการอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoTs รุ่นใหม่ อาทิ นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ Redmi Watch หูฟัง Redmi Buds เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier Elite ทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV Max 85 2025 และ Xiaomi Smart Audio Glasses
นายศิรศร เบญจาธิกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าวในงานเปิดตัว“ Redmi Note 14 Series”อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ว่า Redmi Note เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยมียอดจำหน่ายสูงถึง420 ล้านเครื่อง ในระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่มีอยู่ใน Redmi Note ทุกรุ่นคือ สเปคดี ราคาคุ้มค่า และที่สำคัญคือการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนได้รับประสบการณ์การใช้งานในระดับเรือธง ในราคาที่เข้าถึงได้
สำหรับ “ Redmi Note 14 Series” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกอบด้วย 4 รุ่นคือ Redmi Note 14 Pro+ 5G, Redmi Note 14 Pro 5G, Redmi Note 14 5G, และ Redmi Note 14
โดย Redmi Note 14 Series มีระบบกล้องที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถถ่ายภาพได้ในระดับเรือธง โดยสมาร์ทโฟนรุ่น Pro จะมาพร้อมระบบกล้อง AI ระดับมืออาชีพความละเอียด 200MP และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) นอกจากนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G ยังมีตัวเลือกการซูมขั้นสูง ซึ่งสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดที่เล็กที่สุดด้วยการซูมแบบออปติคอลแบบไม่สูญเสียคุณภาพ 2 เท่า และ 4 เท่า ไปจนถึงการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลด้วยการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 30 เท่า ในขณะที่ Redmi Note 14 5G และ Redmi Note 14 นั้นมาพร้อมกับระบบกล้อง AI ความละเอียด 108MP ที่มอบสีสันสดใสและรายละเอียดที่คมชัด
นอกจากนี้ ในรุ่น Pro ของ Redmi Note 14 Series ยังมีฟีเจอร์ Advanced AI อาทิ AI Image Expansion ซึ่งจะช่วยขยายพื้นหลังเพื่อให้คุณถ่ายภาพได้สมจริงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ AI Erase Pro1 จะช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI Sky ที่จะช่วยให้คุณสลับพื้นหลังได้อย่างง่ายดาย การผสานเอาเครื่องมือ AI เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อนั้นจะช่วย เพิ่มคุณภาพของภาพและปรับปรุงแก้ไขภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Redmi Note 14 Series ยังถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน โดยมาพร้อมกับความทนทานต่อการตก น้ำกระเซ็น และรอยขีดข่วน จากโครงสร้างออลสตาร์อาร์เมอร์ (All-Star Armor) เช่น โครงอะลูมิเนียมคอมโพสิตที่มีความแข็งแรงสูง โฟมดูดซับพลังงาน และวัสดุกันกระแทกโพลีเมอร์ มีความทนทานต่อสภาพอากาศ โดยป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP684 และ มาตรฐาน IP645 หน้าจอแสดงผลถนอมสายตาอันคมชัด 120Hz หน้าจอป้องกันแสงสีฟ้าด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland Low Blue Light การปราศจากการกระพริบ สามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 5110mAh จนถึง 5500mAh6 และมีประสิทธิภาพการทำงานด้วยชิปเซ็ตขั้นสูงที่สามารถจัดการการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอล หรือ การเล่นเกม และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Google Gemini ที่เข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน
สำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
• Redmi Note 14 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB8 สามารถสั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 โดยวางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G ในระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 รับฟรี Redmi Note 14 Series x BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 13,790 บาท
• Redmi Note 14 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+256GB8 วางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 11,290 บาท
• Redmi Note 14 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB8 วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท และรุ่นความจุ 12GB+512GB8 วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 7,690 บาท
• Redmi Note 14 รุ่นความจุ 8GB+256GB8 วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 5,690 บาท
นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G เท่านั้น โดยรับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วมงาน Iconic Fan Meet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ BamBam ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อลุ้นเป็น 1 ใน 150 lucky Fans ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของ Xiaomi Thailand
อย่างไรก็ดี เสียวหมี่ไม่ได้มีแค่โทรศัพท์มือถือ แต่ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีออกมาวางตลาดอย่างหลากหลาย ซึ่งล่าสุดได้ประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoTs รุ่นใหม่
เช่น หูฟัง Redmi Buds 6 มีระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสูง (ANC) ที่มีความลึกสูงสุดอยู่ที่ 49 dB และแบนด์วิดท์ 2kHz ตัวอุปกรณ์มีระบบไดรเวอร์คู่ทำให้ได้เสียงที่ชัดเจนและมีไดนามิก มาพร้อมกับไมโครโฟนคู่ที่ลดเสียงรบกวนด้วย AI มีการแสดงระดับแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์และสามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ชั่วโมง12 ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียวหรือนานถึง 42 ชั่วโมง12 เมื่อชาร์จผ่านเคส วางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่18 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Buds 6 ในระหว่างวันที่ 18 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ 1,349 บาท (จากราคาปกติ 1,790 บาท)
ส่วน หูฟัง Redmi Buds 6 Pro มาพร้อมระบบเสียงไร้สาย Hi-Res Audio15 และมีทวีตเตอร์คู่ PZT ที่ผสานเข้ากับไดรเวอร์ขนาด 11 มม. พร้อมไดอะเฟรมไททาเนียมเพื่อส่งมอบเสียงเบสที่ลึกขึ้นและเสียงสูงที่คมชัดมากยิ่งขึ้น ตัวอุปกรณ์ยังให้เสียงอันมีมิติในตัว ที่มาพร้อมกับโหมดหลากหลายและมีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) 55dB16 ระดับเรือธงที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า 4kHz ซึ่งสามารถปิดกั้นเสียงรบกวนความถี่กลางถึงสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟังเพลงได้ยาวนานถึง 9.512 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว หรือนานถึง 36 ชั่วโมง12 เมื่อชาร์จผ่านเคส และมีการควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครที่ mi.com ระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 และจะวางจำหน่ายในช่องทางต่างๆ อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดย Redmi Buds 6 Pro จะวางจำหน่ายในราคาพิเศษ 2,390 บาท (จากราคาปกติ 2,990 บาท)
นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ Redmi Watch 5 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 2.07 นิ้วพร้อมความสว่าง 1,500 nits อัตราการรีเฟรช 60Hz และความคมชัด 324 ppi แบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 วัน มีมอเตอร์เชิงเส้นที่ช่วยให้การตอบสนองแบบสัมผัสเป็นไปได้อย่างเงียบและแม่นยำ และยังรองรับการโทรผ่านบลูทูธ® พร้อมไมโครโฟนคู่ที่ลดเสียงรบกวน นอกจากนี้ ยังมีอัลกอริทึมอัตราการเต้นของหัวใจแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาโดยบริษัทโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และผู้ใช้ยังสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และคุณภาพการนอนหลับ ได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย Redmi Watch 5 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครที่ mi.com ระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 และจะวางจำหน่ายในช่องทางต่างๆ อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดย Redmi Watch 5 จะวางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,490 บาท10 (จากราคาปกติ 3,990 บาท)
Xiaomi Smart Audio Glasses และ Xiaomi Smart Audio Glasses Replacement Kit โดย Xiaomi Smart Audio Glasses เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ผสานเอาแว่นตาและเสียงเข้าไว้ด้วยกัน โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมเทคโนโลยีสนามเสียงเปิด (open sound field technology) ในการนำเสียงทางอากาศ (air conduction) มาใช้ ทำให้เสียงมีความคมชัด ในขณะที่ยังสามารถรับเสียงจากภายนอกได้ในเวลาเดียวกัน และยังมาพร้อม Xiaomi Smart Audio Glasses Replacement Kit ที่มีโครงสร้างแบบปลดเร็วและข้อต่อแบบหัวเข็มขัดคงที่ลูกปืนคู่ที่จะช่วยให้สามารถเปลี่ยนกรอบได้ง่ายขึ้นภายใน 1 วินาที โดยจะเปลี่ยนแว่นตาของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกในการใช้เป็นแว่นตากันแดดสุดเท่ได้ในทันที ทั้งนี้จะวางจำหน่ายในประเทศไทย ในวันที่ 11 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi Smart Audio Glasses พร้อมด้วย Xiaomi Smart Audio Glasses Replacement Ki ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ 4,490 บาท (จากราคาปกติ 5,990 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier Elite สามารถกรองอากาศสะอาดได้ถึง 10,000 ลิตรต่อหนึ่งนาที และยังมีเทคโนโลยีพลาสมาที่ผสานเข้ากับ UV-C LED ที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ถึง 99 % รวมไปถึง High-iodine activated carbon ที่จะเข้ามาร่วมกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องอีกด้วย นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland Allergy Care Certification เพื่อช่วยป้องกันคุณจากสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ Xiaomi Smart Air Purifier Elite พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครที่ mi.com ระหว่างวันที่ 11 – 20 มกราคม 2568 และจะวางจำหน่ายในช่องทางต่างๆ อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดย Xiaomi Smart Air Purifier Elite จะวางจำหน่ายในราคาพิเศษ 11,990 บาท10 (จากราคาปกติ 13,990 บาท)
ทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV Max 85 2025 โฮมเธียเตอร์สุดพิเศษด้วยจอ QLED ขนาดใหญ่พิเศษ ความคมชัดระดับ 4K UHD ขอบเขตช่วงสีที่กว้างกว่า DCI-P3 94% (typ) อัตราการรีเฟรช 144Hz และเทคโนโลยี 4K 120Hz MEMC ที่ช่วยให้ รับชมกีฬาความเร็วสูง ภาพยนตร์แอคชั่น หรือการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีโหมด Game Boost ด้วยอัตราการรีเฟรช 240Hz Xiaomi TV Max 85 2025 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครที่ mi.com และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 11 – 14 มกราคม 2568 และจะวางจำหน่ายในช่องทางต่างๆ อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดย Xiaomi TV Max 85 2025 จะวางจำหน่ายในราคาพิเศษ 39,990 บาท (จากราคาปกติ 49,990 บาท)
และ Xiaomi Smart Projector L1 โปรเจคเตอร์อัจฉริยะที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยตัวอุปกรณ์รองรับการโฟกัสอัตโนมัติ การปรับแก้ภาพคีย์สโตนอัตโนมัติ ทั้งยังรองรับการใช้งานและรับชมเนื้อหาต่างๆ อาทิ Netflix, YouTube, Disney+, Prime Video, หรือ การใช้งาน Google Assistant Voice นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียงจาก Dolby Audio อีกด้วยXiaomi Smart Projector L1 จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็วๆ นี้
