ENTEC สวทช.ร่วมมือNEDO เปิดตัวไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME เพื่อการขนส่งคาร์บอนต่ำ

New Energy

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)   ร่วมกับ  New Energy and Industrial Technology Development Organization (NEDO)เปิดตัวการนำร่องใช้งาน “ไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME เพื่อการขนส่งคาร์บอนต่ำ”

  ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  เปิดเผยว่า ENTEC ได้เริ่มศึกษาวิจัยไบโอดีเซลพรีเมียม  H-FAME (ไบโอดีเซลที่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพและคุณสมบัติให้ดีขึ้น) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 โดยได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก Japan International Cooperation Agency (JICA), Japan Science and Technology Agency (JST) และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดยไบโอดีเซลชนิดนี้มีความเสถียรที่สูง ทำให้สามารถผสมกับน้ำมันดีเซลในอัตราส่วนที่สูงขึ้น โดยมีการทดลองผสมที่ร้อยละ 10 และทดสอบการใช้งานในรถกระบะ 4 ล้อเป็นระยะทาง 100,000 กิโลเมตร และร้อยละ 20 และทดสอบระยะทาง 50,000 กิโลเมตร  ผลการทดสอบในช่วงนี้พบว่าอัตราการสึกกร่อนของเครื่องยนต์ต่ำกว่าไบโอดีเซลธรรมดาอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มสัดส่วนการผสมกับน้ำมันดีเซล

สำหรับโครงการทดสอบล่าสุดซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จในอดีต ENTEC ได้พัฒนาการผลิตและใช้งานไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME 100% ในประเทศไทย ซึ่งโดยได้รับการสนับสนุนจาก NEDO ในโครงการนี้ ENTEC สามารถสร้างโรงงานต้นแบบผลิตไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรก ผลการทดสอบพบว่า H-FAME 100% มีประสิทธิภาพเทียบเคียงน้ำมัน B7 ที่จำหน่ายทั่วไป และปล่อยฝุ่น PM น้อยกว่า

การทดสอบภาคสนามในครั้งนี้ครอบคลุมการใช้งานจริงในรถกระบะ 4 ล้อ เป็นระยะทาง 10,000 กิโลเมตร รถบรรทุกของบริษัท Sun-up Cooperation (Thailand) Co., Ltd. และรถฟอร์กลิฟต์ของบริษัท Hidaka Yokoo Enterprises Co., Ltd. ซึ่งพบว่าสามารถใช้งานได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 และตอบโจทย์กลยุทธ์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (S&T Implementation for Sustainable Thailand) ของ สวทช.

Mr. Hironori KAWAMURA, Chief Representative of Asian Representative Office in Bangkok ของ NEDO กล่าวว่า การสร้างโรงงานต้นแบบผลิตไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME อย่างต่อเนื่อง และการทดสอบใช้งานจริงในรถกระบะ รถบรรทุก และรถฟอร์กลิฟต์ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการผลักดันการใช้ไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคขนส่ง นอกจากนี้บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นหลายแห่งที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ต่างแสดงความสนใจการนำไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME ไปใช้ในรถกระบะและรถบรรทุกในภาคขนส่ง รวมถึงเครื่องจักรกลหนักในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระหว่างประเทศญี่ปุ่นและไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

ในงานการเปิดตัวดังกล่าว  Dr. Yuji YOSHIMURA, Senior Advisor at ENTEC ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “What is the Premium Biodiesel H-FAME” โดยเน้นถึงข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับไบโอดีเซลธรรมดา โดยเฉพาะคุณสมบัติด้านความเสถียรที่สูงกว่าการลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และการสึกกร่อนของเครื่องยนต์ที่น้อยกว่า ที่สำคัญคือสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 47% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลายในอนาคต นอกจากนี้ในแง่ของต้นทุน หากสามารถขยายกำลังการผลิตได้ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นจากไบโอดีเซลธรรมดาเพียง 1 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับ

ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอนต่ำ ENTEC และหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทเอกชนในประเทศไทยและญี่ปุ่นหลายแห่งสนใจเทคโนโลยีไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME อย่างมาก เนื่องจากไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแต่ยังช่วยลดต้นทุนโดยรวมตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความสนใจของภาคเอกชนคือ ต้นทุนการลดก๊าซเรือนกระจกที่สูงในปัจจุบัน รวมถึงมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) ที่จะทำให้สินค้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีต้นทุนการส่งออกสูงขึ้น การนำ H-FAME มาใช้ในการผลิตและขนส่งจึงช่วยลดต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมและเสริมภาพลักษณ์องค์กรในด้านการลดก๊าซเรือนกระจก  ปัจจุบันโรงงานต้นแบบผลิตไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME สามารถผลิตไบโอดีเซลได้ 250 ลิตรต่อวันอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างหารือร่วมกับ NEDO เพื่อขยายกำลังการผลิตไปสู่โรงงานต้นแบบขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการใช้พลังงานสะอาดทั้งในไทยและระดับสากล

ไบโอดีเซลพรีเมียม H-FAME นับเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่ง สอดคล้องกับมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) และช่วยลดต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมให้แก่ภาคธุรกิจ ปัจจุบันโรงงานต้นแบบมีกำลังการผลิต 250 ลิตรต่อวัน และกำลังพัฒนาไปสู่โรงงานต้นแบบขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและระดับสากล”