CMKL ร่วมกับทีซีซีเทค เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับงานวิจัยแห่งชาติด้านเอไอ ที่ขับเคลื่อนด้วยโซลูชั่นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล กล่าวว่า ซีเอ็มเคแอลก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (CMU) และสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) โดยซีเอ็มเคแอลได้มีการประยุกต์ใช้แนวทางปฎิบัติ ที่ทรงประสิทธิภาพจากคาร์เนกีเมลลอน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสถาบันการศึกษาที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อันดับต้นๆ ของโลกจากสหรัฐอเมริกา ผสานรวมกับศักยภาพของ KMITL ในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรม
“ด้วยค่านิยมหลัก – Beyond Limit, Make it happen, CMKL จึงถูกริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ระหว่างภาคเอกชนและภาคการศึกษา ในขณะที่หลายองค์กรธุรกิจได้มีการย้ายไปยังเมืองพิตซ์เบิร์กเพื่อได้ใกล้กับ CMU แต่ตอนนี้เราได้สามารถนำ CMU มาสู่ประเทศไทยเพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ สำหรับการทำงานร่วมกันกับภาคธุรกิจทั้งในประเทศไทย และระดับภูมิภาค เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ ทีซีซี เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นองค์กรชั้นนำด้านการให้บริการ โครงสร้างพื้นฐานไอทีและโซลูชั่น ดูแลด้านการจัดการโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เพื่อสนับสนุนงานวิจัยบนแพลตฟอร์มแห่งชาติด้านปัญญาประดิษฐ์ ”
ดร. อรทัย สังข์เพ็ชร รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และวิจัย มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล กล่าวว่า “ด้วยการสนับสนุนจากหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) หรือ PMU-C ทำให้สามารถสร้างศักยภาพใหม่ในรูปแบบระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ งานวิจัยและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ภายใต้ชื่อ “ APEX” (ตั้งอยู่ ณ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ประเทศไทย) โดย APEX จะช่วยปลดล็อคศักยภาพขั้นสูง ให้สามารถรองรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงช่วยเร่งความเร็วใน การวิเคราะห์ อันจะส่งผลให้เวลาในการ ทำตลาดสั้นลง และเพื่อความยั่งยืนในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ดังกล่าวในอนาคต เราจึงได้ผนึกกำลังกับเหล่าพันธมิตร ทั้งระดับโลกและผู้ให้บริการภายในประเทศอย่าง ทีซีซี เทคโนโลยี เพื่อสร้างขีดความสามารถระดับชาติในการขับเคลื่อนพลังการประมวลผลของ APEX และทำความเข้าใจรูปแบบการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์”
ดร.อักฤทธิ์ สังข์เพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการ Carnegie Mellon-KMITL มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล กล่าวว่า ด้วยพลังการประมวลผลด้าน AI สูงถึง 30เพตาฟลอปส์ (หน่วย peta คือ 10 ยกกำลัง 15 หรือ พันล้านล้าน) APEXคลัสเตอร์ที่ติดตั้ง ณ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ถือเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ โดยโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว จะกลายเป็นแพลตฟอร์มแห่งชาติในการอำนวยความสะดวกด้านคอมพิวเตอร์ AIแบบรวมศูนย์ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นที่เก็บส่วนกลางสำหรับคลังข้อมูลปัญญาประดิษฐ์และชุดข้อมูลการวิจัยที่รองรับจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) และ PMU-C ซึ่งจุดมุ่งหมายคือการผลักดันให้ปัญญาประดิษฐ์ สามารถตอบสนองความต้องการ ที่เฉพาะเจาะจงของธุรกิจได้อย่างแท้จริง
“การร่วมมือระหว่างเรากับทีซีซี เทคโนโลยี รวมถึงองค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยี เพื่อทำให้ระบบในส่วนต่างๆที่จำเป็นพร้อมใช้งานสำหรับการวิจัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และด้วยความเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูลถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จสำหรับโครงการปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลประสิทธิภาพสูงหมายความว่าสามารถทำงานได้มากขึ้นและมีโอกาสมากขึ้นสำหรับนักวิจัยในการเปลี่ยนแนวคิด การวิจัย AI ให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ”
นายธีรพันธุ์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “ทีซีซี เทคโนโลยี รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ CMKL ในการพัฒนาโซลูชั่นด้านโครงสร้างพื้นฐานให้กับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการวิเคราะห์ AI ระดับชาติ ภายใต้แผนการขับเคลื่อน BCG ของประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ ในการก้าวกระโดดของประเทศไทยในด้านปัญญาประดิษฐ์ และการปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศไทยไปสู่ Value–Based และเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”
สำหรับ CMKL เลือกสรรโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการซึ่งขับเคลื่อนโดยทีซีซี เทคโนโลยี ครอบคลุมตั้งแต่ ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบควบคุม ระบบเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง ระบบประมวลผลและจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีการประมวลผล สมรรถนะสูง เพื่อการจัดการด้าน AI นอกจากนี้ ยังรวมถึงโซลูชั่นที่ครอบคลุมการใช้งานแบบเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งรวมถึงในส่วนของบริการด้านการบริหารจัดการ และการติดตามตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อด้วยโครงข่ายความเร็วสูง ที่เชื่อมโยงสู่ศูนย์การแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เป็นกลางของประเทศไทย ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิผล