Innolife Thailand เยี่ยมชมผู้ประกอบการ บริษัท รวมพรมิตรฟาร์ม จำกัด หลัง สวทช. โดย โปรแกรม ITAP เครือข่าย มหาวิทยาลัยพะเยา สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ และเพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานทดแทน
“ดร.นันทิยา วิริยบัณฑร” ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้เกียรตินำ Innolife Thailand ลงพื้นที่เยี่ยมชม บริษัท รวมพรมิตรฟาร์ม จำกัด อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่ง ITAP เครือข่ายมหาวิทยาลัยพะเยา เข้าแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ และเพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานทดแทนการสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้มีการยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นนโยบายที่ภาครัฐให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง มีเงินหมุนเวียนในระบบและเกิดการจ้างงานในทุกพื้นที่
ดร.นันทิยา เปิดเผยต่อ Innolife Thailand ว่า โปรแกรม ITAP สวทช. ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในโครงการให้คำปรึกษาเชิงลึกที่ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มากกว่า 1,200 โครงการต่อปี ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถเข้าร่วมได้ทันทีเนื่องจากเปิดให้บริการทุกวันทำการ เปิดให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ เข้าร่วมโครงการได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเทคโนโลยี นวัตกรรม และลดต้นทุนทางธุรกิจ รวมถึงเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
“ปัจจุบัน ITAP มีเครือข่ายทั่วประเทศ 19 แห่ง และมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 1,500 ราย โดย ITAP เครือข่าย ม.พะเยา เข้ามาเป็นเครือข่ายในปี 2561 ให้บริการ SME ไทยในพื้นที่ภาคเหนือ ปีละมากกว่า 50 ราย มีที่ปรึกษาเทคโนโลยี (ITA) ที่จะรับโจทย์จากผู้ประกอบการและช่วยสรรหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เข้าไปช่วยเหลือบริษัทในโจทย์ต่าง ๆ เช่น การแก้ปัญหา การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้ SME เข้มแข็งและเติบโตต่อไปได้”
ขณะที่ “รศ.ดร.ต่อพงศ์ กรีธาชาติ” ผู้จัดการเครือข่าย ITAP-UP มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ ITAP เครือข่าย ม.พะเยา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถสนับสนุนธุรกิจในระดับ SMEs ในการนำเทคโนโลยีเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกิจการ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ในหลายด้าน เช่น การจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน นวัตกรรมอาหาร การพัฒนาเครื่องจักรเพื่อกระบวนการผลิต การส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร และ Smart Farm รวมแล้วไม่น้อยกว่า 150 โครงการ
ด้าน “ดร.ศตวรรษ ทนารัตน์” อาจารย์ประจำคณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพะเยา ผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม ITAP ให้ข้อมูลกับ Innolife Thailand ว่า จากโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ บริษัท รวมพรมิตรฟาร์ม จำกัด ที่ต้องการแก้ไขปัญหา คือ เรื่องน้ำเสียของกิจการ ที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงไก่ ทีมผู้เชี่ยวชาญจึงได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนน้ำเสียและของเสียให้กลายเป็นก๊าซชีวภาพ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบพลังงานทดแทนได้ โดยการผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในกิจการ ระบบบำบัดเสียน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการหมักย่อยน้ำเสียในระบบปิด และน้ำที่ผ่านการบำบัดจะสะอาดได้มาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดไว้ ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญมีความพยายามที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบและนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น เช่น การออกแบบให้ระบบใช้พื้นที่ในการติดตั้งให้น้อยลง ใช้เงินลงทุนน้อยลง แต่ประสิทธิภาพการหมักย่อยสูงขึ้น การออกแบบพัฒนาให้ระบบสามารถรองรับน้ำเสียที่มีสภาวะแตกต่างกันมาก ๆ ได้ภายในระบบเดียว และการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบสามารถผลิตก๊าซชีวภาพในปริมาณที่สูงขึ้น
ในส่วนผู้ประกอบการ “นายชาญวิทย์ เวชชากุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รวมพรมิตรฟาร์ม จำกัด บอกว่า บริษัทมีความสนใจในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ในกิจการเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน จึงได้ขอคำปรึกษาด้าน เทคโนโลยีกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จนกระทั่งได้มารู้จักกับ ITAP ผ่านผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทมาก เพราะ ITAP มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น ช่วยบริษัทลดความเสี่ยงในเรื่องการลงทุนเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหา และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่ต้องการจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ที่ดีมีคุณภาพสู่ตลาดแล้ว บริษัทยังมุ่งพัฒนากิจการสู่ธุรกิจสีเขียว คือ ไม่สร้างมลพิษสู่ชุมชน และยังสามารถผลิตพลังงานทดแทนไว้ใช้ภายในกิจการเองได้ ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศหรือระบบก๊าซชีวภาพที่บริษัทได้ทำการติดตั้งไปนั้น สามารถตอบโจทย์เป้าหมายของกิจการ
“ปัจจุบันบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและจำนวนแมลงวัน อีกทั้งยังสามารถนำก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ไปใช้ประโยชน์ในการผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในฟาร์มได้ถึง 70% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในฟาร์ม นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ติดตามมาคือ บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างไร้ปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทไปในทางบวกทั้งสิ้น” นายชาญวิทย์ กล่าว