เนคเทคต่อยอดเกษตรแม่นยำสู่แพลตฟอร์มคาดการณ์ผลผลิตการเกษตร

เวทีวิจัย

เนคเทค สวทช. ต่อยอดเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ สู่การพัฒนาแพลตฟอร์มคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรหวังเป็นแพลตฟอร์มในระดับประเทศ  

                 ดร.นพดล  คีรีเพ็ชร   นักวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยคลังอนุพันธ์ความรู้ (KEA)กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ (DSARG)ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ( สวทช.) กล่าวว่า   จากปัจจัยที่เป็นอุปสรรคสำคัญของภาคการเกษตรไทยมาโดยตลอด คือ ความจำเป็นในการพึ่งพาสภาพอากาศที่แปรปรวนคาดการณ์ได้ยาก โรคระบาด การปลูกพืชเชิงเดี่ยว รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย  ทำให้ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ  เข้ามาใช้ในภาคการเกษตรมากขึ้น  ซึ่งเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเป้าหมาย ที่เนคเทคมุ่ง  พัฒนาผลงานวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านการเกษตรและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกรไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อยมาอย่างต่อเนื่อง

                  ทั้งนี้ข้อมูลจากรายงานการคาดการณ์นวัตกรรมอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรแม่นยำ (ศูนย์ข้อมูลและการคาดการณ์เทคโนโลยี, 2016) ระบุ หลักการสำคัญของเกษตรแม่นยำ คือ Variable Rate Application(VRA)   ซึ่งหมายถึง แม้จะปลูกพืชชนิดเดียวกัน ในแปลงเดียวกัน แต่ความสมบูรณ์ของต้นพืชรวมถึงคุณภาพและปริมาณของผลผลิตไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเสมอไป ด้วยปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมมักไม่สม่ำเสมอแม้เพาะปลูกในพื้นที่เดียวกัน  ดังนั้นการบริหารจัดการแปลงเพาะปลูกจึงต้องแตกต่างกัน โดยต้องเหมาะสมกับความต้องการของพืชและสภาพแวดล้อมนั้น ๆ

                 โดยการบริหารจัดการแปลงเพาะปลูกดังกล่าว จำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลและแปรผลเป็นคำแนะนำที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนและดูแลการเพาะปลูกได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม หรือแปลงเป็นคำสั่งเพื่อควบคุมให้เครื่องจักรหรือระบบอัตโนมัติต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำกว่าการควบคุมด้วยมนุษย์ ซึ่งจะช่วยทุ่นแรงงาน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรทางการผลิต อีกทั้งยังให้ผลผลิตต่อพื้นที่ (Yield) ที่ดีขึ้นอีกด้วย

                 ดร.นพดล     กล่าวว่า  “ข้อมูล” เป็นหัวใจสำคัญของเกษตรแม่นยำ ดังนั้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจึงอยู่ในกลุ่มของเซนเซอร์ตรวจวัด (Sensor) อุปกรณ์ไอโอที (IoT) สถานีตรวจวัดอากาศ (Weather Station) ดาวเทียม (Satellite) โดรน (Drone) เพื่อจัดเก็บข้อมูลปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ข้อมูลสภาพอากาศ ข้อมูลสภาวะดินและน้ำ เป็นต้น นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีด้านการประมวลผลข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ต่อไป  โดยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ  ยังเป็นฐานการพัฒนาไปสู่การคาดการณ์ปริมาณผลผลิต รวมถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรแม่นยำได้อีกด้วย

                 ปัจจุบันเนคเทค ได้มีการต่อยอดจากการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ  สู่การพัฒนาแพลตฟอร์มคาดการณ์ผลผลิตและปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร (Predictive Farming Platform)   โดยมีการรวบรวมข้อมูล 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ข้อมูลภาคอากาศ ข้อมูลภาคพื้นดิน และข้อมูลสุขภาพพืช โดยอาศัยเทคโนโลยีการรับรู้ระยะไกล (Remote Sensing) เซนเซอร์ (Sensor) โดรน (Drone) เป็นต้น   ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นฐานในการสร้างโมเดลเฝ้าระวังสุขภาพพืช (Crop Health Monitoring) โมเดลการพยากรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นต้น เพื่อนำไปสู่แพลตฟอร์มการคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรระดับประเทศที่มีประโยชน์ใน 4 ด้านหลักคือ 1. การคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (Crop Yield Prediction) ซึ่งเป็นการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตต่อพื้นที่ (yield) จากข้อมูลการคาดการณ์สภาพดิน ฟ้า อากาศ น้ำ และโรคระบาด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวของกับการเจริญเติบโตของพืช  2. แนวทางการจัดการแปลงเพาะปลูกอย่างเฉพาะเจาะจง (Crop Management)  ซึ่งเป็นการจัดการแปลงเพาะปลูกเฉพาะบางตำแหน่งตามความต้องการของพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตตามเป้าหมาย เช่น การให้น้ำ ใส่ปุ๋ย การกำจัดศัตรูพืช การรับมือภัยธรรมชาติ โรคและแมลงศัตรูพืช เป็นต้น 3. แนวทางการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ (Crop Recommendation)  โดยเป็นการแนะนำพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด หรือแนะนำพืชที่เหมาะสมที่จะปลูกบนพื้นที่ที่กำหนด โดยอิงความต้องการทางการตลาดและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ต้นทุน ผลตอบแทน ฯลฯ   และ  4. การพิจารณาสินเชื่อเพื่อการเกษตรจากโอกาสในการได้ผลผลิตตามเป้า (Crop Insurance)  ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลคาดการณ์ปริมาณผลผลิตต่อพื้นที่ (yield) เป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดวงเงิน และอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อด้านการเกษตร โดยพิจารณาจากความต้องการของตลาด และโอกาสในการได้ผลผลิตตรงตามเป้า ร่วมกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องตามที่สถาบันการเงินนั้น ๆ กำหนด

                 อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรในระดับประเทศนั้น จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยี    เนคเทค สวทช.ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งไทยและนานาชาติในการสนับสนุนองค์ความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีสำหรับการคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytic) เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) โดยปัจจุบันยังต้องการการสนับสนุนเทคโนโลยีที่รองรับการเก็บข้อมูลในระดับประเทศ (Cloud Computing)

                 นักวิจัยกล่าวว่า  เป้าหมายของแพลตฟอร์มคาดการณ์ผลผลิตและปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร  จะเป็นข้อมูลสำคัญที่รัฐบาลใช้เป็นฐานสำหรับวางนโยบายการผลิต บริหารจัดการผลผลิต และใช้จ่ายงบประมาณด้านการเกษตรในภาพรวมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์ และการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่เกี่ยวข้องทางการเกษตร เสริมศักยภาพในการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ไปจนถึงการรักษาความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) นำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศ

                 สำหรับภาคเอกชน การมีข้อมูลการคาดการณ์ผลผลิตและปัจจัยด้านการเกษตรที่แม่นยำ จะเป็นข้อได้เปรียบในการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การคุมราคากลาง และวางแผนและดูแลการเพาะปลูกอย่างเฉพาะเจาะจง ยกตัวอย่าง เอกชนกลุ่มพืชพลังงาน (อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม ฯลฯ) ซึ่งมีราคาน้ำมันเป็นตัวแปรหนึ่งในการวางแผนการเพาะปลูก ดังนั้นสัดส่วนในการเพาะปลูกเพื่อผลิตเป็นพลังงานทดแทน กับ ผลิตเพื่อแปรรูปเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคควรแตกต่างกันตามอัตราการขึ้นลงของราคาน้ำมัน เป็นต้น

                 “เนคเทค สวทช.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้นักพัฒนา หรือ ธุรกิจกลุ่ม Startup ร่วมกันพัฒนาความสามารถหรือสร้างสรรค์สู่แอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรกรรม ไปจนถึงการสร้างชุมชน (Commuunity) และระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ของการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีต่อไป”