อว. จับคู่ 40 ทีม บัณฑิต-นศ. U2T กับ 20 หน่วยงานวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม Matching Day ยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมกับ ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขา รมว.อว. ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษา รมว.อว ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้ช่วย รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ประธานคณะทำงานด้านการจัดการสื่อสารโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ(U2T) ร่วมเปิดงาน U2T Macthing Day ซึ่งเป็นการจับคู่ 40 ทีม U2T แฮกกาธอนที่ผ่านเข้ารอบจาก 8 ภูมิภาค กับ 20 หน่วยงานของ อว. ในรูปแบบออนไลน์ ที่สตูดิโอ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การจัดกิจกรรม U2T Macthing Day ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของ U2T ซึ่งหลังจาก 1 ก.พ. ที่ผ่านมา กระทรวงอว. ได้คิ๊กออฟโครงการนี้ มาเป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว โดยโครงการได้ส่ง 76 มหาวิทยาลัย บัณฑิต นักศึกษา ประชาชนที่ได้รับการจ้างงานกว่า 6 หมื่นคน ลงพื้นที่ทำงานใน 3,000 ตำบล ซึ่งช่วงของโควิด – 19 U2T มีการปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานมา สนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยร่วมออกหน่วยปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเชิงรุกในชุมชน หรือ CCRT (Comprehensive COVID-19 Response Team) ใน 3,000 ตำบล โดยสนับสนุนการคัดกรอง ตรวจเบื้องต้นโดยวิธีหาแอนติเจน (ATK) ฉีดวัคซีน รวมทั้งทำกลไกกักตัวที่บ้านและชุมชน
“ สำหรับกิจกรรม U2T Macthing Day เป็นผลต่อเนื่องมาจากการจัดแข่งขัน U2T แฮกกาธอน ซึ่งมีผู้สมัครมาเข้าร่วมกิจกรรมถึง 965 ทีม หรือกว่า 5,000 คน จาก 8 ภูมิภาค โดยรอบแรกได้ทำการคัดเลือกจาก 965 ทีม ให้เหลือ 300 ทีม จากนั้นจึงคัดเหลือ 40 ทีมสุดยอดผ่านเข้ารอบสุดท้าย เพื่อแข่งชิงแชมป์ประเทศ จึงทำให้เกิดกิจกรรม Matching day ขึ้น โดยทีมที่ผ่านการคัดเลือก 40 ทีมจะจับคู่กับหน่วยงานภายใต้ อว. อีก 20 หน่วยงานมาร่วมบ่มเพาะการพัฒนานวัตกรรม รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ได้ฝึกฝน ทดลองทดสอบกับทั้ง 20 หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านแตกต่างกันไป ถือเป็นการศึกษาแบบใหม่เพื่อการพัฒนาตนเองและพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ที่สำคัญ กิจกรรมนี้จะทำให้ทีม U2T ได้รู้จักกับคนในพื้นที่ รู้จักนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน U2T จึงเป็นโครงการที่บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คนที่ร่วมโครงการนี้จึงได้รับโอกาสครั้งสำคัญ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้น้องๆ รุ่นต่อไปจะได้เข้ามามีส่วนร่วม และอาจขยายผลไปอีก 4,000 กว่าตำบลจนครบทั้งประเทศ ตนขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เพราะทุกคนคือผู้กล้า ที่กล้าคิด กล้าแสดงออก เพื่อนำประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน”