iPad เป็นอุปกรณ์ในฝันของปรารถนาดีมานานแล้ว เมื่อครั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้กกำลังเริ่มเข้าสู่ตลาดกัน ในยุคนั้นอุปกรณ์ทั้งสองไม่ตรงกับความต้องการทำงาน โทรศัพท์มือถือพิมพ์งานยาวๆก็ไม่ได้ แม้จะเป็น PDA ก็เถอะ โน้ตบุ้ก เครื่องใหญ่ หนักมากต้องแบกไปทำงานนอกสำนักงานทุกวัน อีกทั้งเกลียดเมาส์บนโน้ตบุ้กที่เป็นปุ่มเล็กๆ มากที่สุด
เคยนั่งคิดว่า ถ้ามีค่ายไหนเอาจอโทรศัพท์แบบสัมผัสไปขยายใหญ่ๆ ใส่ฟีจเจอร์สมาร์ทโฟนเข้าไป แล้วใส่ฟังค์ชั่นการใช้งานแบบโน้ตบุ้ก เชื่อมต่อเน็ตได้ แพงแค่ไหนก็จะเก็บตังค์ซื้อมาใช้
จนถึงวันนี้มีแต่ iPad เป็นอุปกรณ์ทำงานหลัก ทำทุกอย่างได้หลากหลาย
สัปดาห์ที่แล้ว Apple เปิดตัว iPad รุ่นใหม่พร้อมกันสองรุ่น คือ iPad รุ่นที่ 9 กับ iPad mini
Tim Cook ซีอีโอ Apple ประกาศบนเวทีว่า เป็นบิ๊กอัพเกรดของ iPad ทั้งสองรุ่น มาดูสเปกคร่าวๆ กันค่ะ
iPad รุ่นที่ 9 นักเรียน นักศึกษา คุณครู ผู้ใช้งานทั่วไป เหมาะมากกับรุ่นนี้ ชิป A13 Bionic แบตเตอรี่นานตลอดวัน จอภาพ Retina® ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone®, กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และ Smart Keyboard™, ระบบปฏิบัติการ iPadOS® 15 หน้าตาสวยงาม ใช้ง่าย
iPad Mini เป็นมินิรุ่นสอง ที่ปรับโฉมใหม่หมดจด เหมือน iPadPro ฉบับย่อส่วน จอภาพ Liquid Retina® ขนาด 8.3 นิ้ว ชิป A15 Bionic เร็วกว่ารุ่นก่อน 80% พอร์ต USB-C ใหม่ รุ่น Cellular มาพร้อม 5G ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเวิร์กโฟลว์การทำงานแบบเคลื่อนที่ กล้องมีคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และการรองรับ Apple Pencil® (รุ่นที่ 2) จะบันทึกภาพและวิดีโอ และจดไอเดียต่างๆ ที่แล่นเข้ามาในหัวแบบฉับพลัน ก็ขีดเขียนได้ทันที
คุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง ( center Stage) มีทั้งสองรุ่นเหมือน iPad Pro เหมาะมากถ้าเราต้องประชุมออนไลน์ ทำคลิปส่งใบงานให้คุณครู คราวนี้ภาพเราไม่ตกขอบ เพราะกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12 MP จะจดจำเราแล้วแพนตามการเคลื่อนไหว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแฮงเอาท์วิดีโอ กับเพื่อน ๆ ใช้ได้กับแอปวิดีโอทั้งหลายรวมทั้ง TikTok ด้วยนะคะ
อีกฟีจเจอร์ที่น่าสนใจ ก็คือ ลองนึกภาพว่ากำลังยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ อยากจะส่งหรือค้นหาข้อมูลหนังสือที่เห็นบนแผง ก็แค่เปิดกล้องสแกนที่สันหนังสือแนวตั้งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแนวนอนตามปกติ ฟีเจอร์ข้อความที่เราคัดลอกด้วยวิธีสแกน จะเข้าไปที่เว็บ Safari ได้ทันที ค้นหาได้พร้อมๆ กับการเปิดแอปอื่นๆ บนจอ iPad แสดงผลบนหน้าจอได้สามแอปพร้อมกัน คือ ภาพถ่าย การแสดงผลจาก Safari และข้อความ ที่เราจดบันทึกด้วย Apple Pencil
เป็นความสามารถของชิปรุ่นใหม่ ที่เรียนรู้เร็วและบันทึกโดยอัตโนมัติ
ราคา iPad รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 11,400 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 16,400 บาท ในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ iPad ใหม่เริ่มต้นที่ความจุ 64GB มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า และยังมีตัวเลือก 256GB วางจำหน่ายเช่นกัน
มาต่อกันด้วย iPad Mini หลังจากเผยโฉมมั่นใจมากว่า แทบทุกวัยอยากได้ เป็นการออกแบบใหม่ครั้งใหญ่สำหรับ iPad Mini ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% บางและเบา ด้านข้างเป็นแม่เหล็กสำหรับเก็บ Apple Pencil (รุ่น2 )
มีพอร์ต USB C อยู่ขอบล่างตัวเครื่อง
มุมบนสุดมีปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่ม Touch ID สำหรับปลดล็อกตัวเครื่อง จอภาพ Liquid Retina®
ตัวเครื่องมี 4 สี สวยจริงๆ คือ ม่วง ชมพู เทาเสปชเกรย์และ สี Stardust ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสีทองและสีเงิน
iPad Mini จึงเป็นเหมือนสมุดบันทึก สมุดสเก็ตซ์ภาพ เป็นเครื่องมือสำหรับธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลสุขภาพ งานภาคสนามของสถาปนิกไฟล์ 3D CAD เต็มรูปแบบก็รองรับ การบริการและการซ่อมแซม หรือนักบินก็สามารถใช้ iPadMini แสดงรายละเอียดแอปที่เหล่านักบินใช้งานกันแทนใช้เอกสาร
ราคา iPad mini รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 23,400 บาท iPad mini ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB
เอาราคาไปพิจารณากันก่อนนะคะ
ว่าจะไป iPad 9 หรือ iPad mini ควรยึดจากความต้องการใช้งานเป็นหลัก ส่วนวันจำหน่ายรอดูจากเว็บ Apple ของไทยอีกครั้ง
ว่าจะเขียนสั้นๆ กลัวจะขี้เกียจอ่านกัน แต่มาคิดอีกที ถ้าเป็นเรื่องที่เราสนใจ ยาวก็อ่าน ยังมีข้อมูลอีกเยอะ ค่อยๆอ่านกันทีละนิดนะคะ
เขียนให้อ่านเพราะรัก iPad จริง และใช้เกือบทุกรุ่นตลอดสิบปี ยกเว้นรุ่นแรกที่คว้าไม่ทันตังค์ไม่มีค่ะ
ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com
Facebook:ปรารถนาดี