สสว.-กสอ. จับมือ เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมเชิดชูศักยภาพเอสเอ็มอีไทย มอบรางวัล “เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2021” มุ่งหวังสร้างพลังขับเคลื่อนและเป็นต้นแบบให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย เดินหน้าพัฒนาและยกระดับคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐานสากล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
วันนี้(19 พ.ย. 64 ) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดงานมอบรางวัล “เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2021” ผ่านระบบออนไลน์รูปแบบ HYBRID
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เซเว่น อีเลฟเว่นร่วมกับ 2 หน่วยงานพันธมิตรสำคัญได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดงานมอบรางวัล“เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2021” โดยปีนี้เป็นปีที่ 5 เพื่อเชิดชูผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่มสินค้า ในการเดินหน้าพัฒนาธุรกิจและยกระดับคุณภาพสินค้าของตนเองสู่มาตรฐานสากล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้มีการแบ่งประเภทรางวัลทั้งสิ้น 9 ประเภท รวมจำนวนเอสเอ็มอีที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและได้รับรางวัลจำนวน 16 ราย
“แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการประกอบธุรกิจ แต่ก็มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวนไม่น้อยที่สามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างน่าชื่นชม เซเว่น อีเลฟเว่น และหน่วยงานพันธมิตรทั้ง 2 ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีมาตลอด จึงอยากขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเชิดชูเกียรติเอสเอ็มอีที่สามารถยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าสู่สากล ด้วยเชื่อมั่นว่ารางวัลเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์และต่อยอดโอกาสให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสินค้าชุมชน กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันผู้ได้รับรางวัลจะเป็นเอสเอ็มอีต้นแบบให้แก่เอสเอ็มอีรายอื่นๆ และคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาสินค้าและธุรกิจของตนเองให้เข้มแข็งและมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในอนาคต” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
สำหรับความพิเศษของการจัดงานในปีนี้คือ เป็นการจัดในรูปแบบไฮบริด (HYBRID) เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมงาน โดยกิจกรรมภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ที่ได้รับรางวัล พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “สร้างแบรนด์ SME ในยุค Next Normal” โดย คุณโอลิเวอร์-กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสารบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับเอสเอ็มอีนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจ สอดรับกับปณิธานที่ว่า “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน” ผ่านภารกิจ “3 ให้ SME” ได้แก่ 1.ให้ช่องทางขาย 2.ให้ความรู้ และ 3.ให้การสนับสนุน
ด้าน นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยจะมีผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีราว 3 ล้านราย หรือเป็นสัดส่วนกว่า 99% ของจำนวนธุรกิจภายในประเทศทั้งหมด และเป็นภาคธุรกิจที่มีการจ้างงานมากที่สุด แต่สามารถสร้างรายได้ได้เพียง 34.2% ของจีดีพีทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วอยู่ที่ 40-50% ทั้งยังมีผู้ประกอบการรายย่อยนอกระบบอีกจำนวนมาก ทำให้ภาครัฐไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ธุรกิจเอสเอ็มอีจึงเป็นภาคธุรกิจที่แบกรับภาระมากที่สุดภาคหนึ่งในช่วงโควิด-19
ที่ผ่านมา สสว. ในฐานะหน่วยงานกลางที่ประสานความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในทุกรูปแบบ อาทิ การให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การให้ความรู้ เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีสามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล ซึ่ง สสว.ได้ออกนโยบายสนับสนุนเอสเอ็มอีในด้านต่างๆ เช่น มาตรการ “THAI SME-GP” ออกกฎกระทรวงกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้าหรือบริการของเอสเอ็มอีที่ขึ้นบัญชีไว้กับ สสว. ในวงเงินไม่น้อยกว่า 30% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาทต่อปีงบประมาณ และมาตรการ “จ่ายคนละครึ่ง” ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้ตรงตามความต้องการของตลาดมากขึ้น โดย สสว.จะให้การเงินสนับสนุนแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วนตั้งแต่ 50-80% ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ภายใน ม.ค. 2565
นอกจากนี้ ทางคณะรัฐมนตรียังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่าง “แผนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 – 2570)” ขึ้น โดยตั้งเป้าขับเคลื่อนภาคธุรกิจเอสเอ็มอีให้สามารถสร้างรายได้ได้ถึง 40% ของจีดีพีภายในสิ้นปี 2570 “งานมอบรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะได้เรียนรู้กลยุทธ์และแนวคิดการทำธุรกิจในยุค Next Normal รวมทั้งการขยายตลาดสู่ ASEAN และสากลด้วย ซึ่งสสว.จะเป็นคลังข้อมูลธุรกิจประตูสู่อาเซียนและสากล (Your business information gateway to ASEAN and beyond)”
ขณะที่ ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานหลักในการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย มีความตระหนักมาโดยตลอดว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงเดินหน้าประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแนวคิดการส่งเสริมและสนับสนุน SME ตามนโยบาย “ STI ” โดย S คือ Skill (ทักษะเร่งด่วน) T คือ Tools (เครื่องมือเร่งด่วน) และ I คือ Industry (อุตสาหกรรมเร่งด่วน) เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
“สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี จำนวนกว่า 20,000 ราย ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจนต้องปิดกิจการลง และบางส่วนยังประสบปัญหาหนี้สิน เนื่องจากขาดการสนับสนุนด้านต่างๆ อาทิ องค์ความรู้ด้านการตลาด การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาเทคโนโลยี ขาดแคลนวัตถุดิบ การบริหารจัดการต้นทุน และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ กสอ. จึงออกนโยบาย “พร้อมสู้ อยู่ได้ ไปรอด” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบเร่งด่วน คือ 1.การจัดการโควิด-19 ในสถานประกอบการ ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 2.การตลาด 2.0 ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ 3.ช่วยเหลือด้านการขนส่ง ผ่านโครงการ “ดีพร้อมแพค” ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบและพัฒนาตราสินค้า ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย 4.เปลี่ยนค่าใช้จ่ายเป็นเงินทุน เช่น ให้องค์ความรู้เพื่อลดต้นทุนจากการขนส่งและกระบวนการทำงาน 5.สร้างเครือข่ายพันธมิตร อาทิ พัฒนา I-AID แพลตฟอร์มเช่าเครื่องจักรทางการเกษตร ช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร และ 6.ปรับโมเดลธุรกิจ คาดว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรมได้กว่า 3,356 กิจการ 982 ผลิตภัณฑ์ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 8,000 ล้านบาท ภายในปี 2564”
ทั้งนี้ความร่วมมือในการมอบรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2021 ในครั้งนี้ จะเป็นทั้งการร่วมเชิดชูและเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เอสเอ็มอีในทุกอุตสาหกรรมในการพัฒนาตัวเองต่อไป
สำหรับรายชื่อเอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัล 9 ประเภท รวมจำนวน 16 รางวัล ประกอบด้วย
1. SME ยั่งยืน ได้แก่ อาหารทานเล่น “แน็คเก็ต” จาก บริษัท ทันน่า ฟู๊ดส์ จำกัด
2.SME ยอดเยี่ยม ได้แก่ ยาดมสมุนไพร “หงส์ไทย” จาก บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โมริกามิ และเดอะเนเจอร์ จาก บริษัท ป่าล้านไร่ จำกัด
3. SME ดาวรุ่ง ได้แก่ ขนมเปี๊ยะ “เอพริล เบเกอรี่” จาก บริษัท สิงหา ฟู้ด อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว “เคลียร์โนส” จาก บริษัท เอ็นอาร์พีแอล เอเชีย จำกัด
4. SME สินค้าเกษตร ได้แก่ ผลไม้สด จาก บริษัท ไทย เบสท์ โปรดักส์ โฮลดิ้ง จำกัด และผลไม้สด จาก บริษัท เอส. พี. เอส. ฟรุ๊ตส์ จำกัด
5. SME ผู้ประกอบการชุมชน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ “แคบหมึก รุ่งธนา” จาก บริษัท รุ่งธนาอินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัดและผลิตภัณฑ์ชาชงสมุนไพรและสมุนไพรแห้ง “ด็อกเตอร์กรีน” จาก บริษัท ดาริชกรีน จำกัด
6. SME ความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “โอเมส” จาก บริษัท โอเมส ไบโอเทค จำกัด
7. SME ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว “อะกรีไลฟ์” จาก บริษัท อะกรีไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “เรียลอิลิคเซอร์” จาก บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด
8. SME ผู้รับเหมายอดเยี่ยม ได้แก่ บริษัท เก่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท แอ๊ดวานซ์ อิเลคทริค เซอร์วิส จำกัด
9. SME ผู้รับเหมาท้องถิ่นดาวรุ่ง ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.วัฒนพงศ์ และบริษัท ภูเก็ต เอส.ซี.ที. คอนสตรัคชั่น จำกัด