เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ลงนามความร่วมมือการส่งเสริมและผลักดัน 5 นวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาคกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียง เหนือจำนวน 11 มหาวิทยาลัย
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)กล่าวว่า หลายครั้งที่มีโอกาสได้เห็นผลงานวิจัยที่น่าสนใจของเนคเทค สวทช. ซึ่งสามารถสนับสนุนและส่งเสริมภาคการศึกษาของชุมชนในพื้นที่ได้ สอดคล้องกับนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอว. ที่ต้องการเห็นมหาวิทยาลัยราชภัฏใช้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคณาจารย์และเครือข่ายนักวิจัย โดยราชภัฏ มีจุดแข็งที่ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดเป็นรูปธรรม และมีความเป็นเลิศในหลายๆ ด้านได้
ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์นโยบายและยุทธศาสตร์รัฐบาล “เตรียมคนไทยแห่งศตวรรษที่ 21 พัฒนาเศรษฐกิจที่กระจายโอกาสอย่างทั่วถึง สังคมที่มั่นคง และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยสร้างความเข้มแข็งทางนวัตกรรมระดับแนวหน้าในสากล นําพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว” กระทรวงอว. จึงกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ โดยออกแบบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดําเนินงานในลักษณะแพลตฟอร์ม (Platform) ความร่วมมือการพัฒนาใน 4 ด้าน ได้แก่1.การพัฒนากําลังคนและสถาบันความรู้ 2. การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม 3. การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และ 4.การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ โดยดําเนินงานควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช.กล่าวว่า เนคเทค ในฐานะองค์กรชั้นนำในการสร้างฐานรากสำคัญด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูงของประเทศ มีพันธกิจเพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการใช้งานเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูง ผ่านโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติและเครือข่ายพันธมิตรภาคการศึกษา และภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 นั้น ต้องการบุคลากร และโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและสารสนเทศขั้นสูง เพื่อสร้างนวัตกรรมสมัยใหม่ที่มาจากการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่จากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสังคม โดยปัจจุบันประเทศไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรวบรวมข้อมูล ยังมีบุคลากรผู้้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และการบูรณาการข้อมูลที่จำกัด ถือเป็นช่องว่างสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนา ขณะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันที่มีบทบาทสำคัญ ในการผลิตบัณฑิตที่มีอัตลักษณ์ มีคุณภาพ มีสมรรถนะ และเป็นสถาบันหลักที่บูรณาการองค์ความรู้สู่นวัตกรรมในการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ ทั้งยังมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการส่งเสริมและผลักดัน 5 นวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาคได้แก่ KidBright: บอร์ดสมองกลฝังตัว, ThaiJo หรือ Thai Journals Online: แพลตฟอร์มบริหารจัดการองค์ความรู้ (วารสาร) วิชาการของประเทศ, Massive Open Online Courses หรือ MOOC ระบบการศึกษาออนไลน์แบบเปิดเพื่อมหาชน, Navanurak Platform: ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มเพื่อการจัดเก็บข้อมูลทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ และ Museum Pool: ระบบบริหารจัดการเนื้อหานำชมพิพิธภัณฑ์ที่ประยุกต์ใช้เป็นโมไบล์แอปพลิเคชันนำชมได้ เพื่อกระจายสู่การใช้งานและพัฒนาชุมชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านรองศาสตราจารย์มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ตัวแทนกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 11 มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุดแข็งของมหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่งคือ การทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดเป็นรูปธรรมและมีความเป็นเลิศในหลายๆด้าน เช่น ด้านการเรียนการสอนและให้ความรู้แก่ชุมชน การทำงานได้จริง ความรักถิ่นฐาน และที่สำคัญมีความรู้ความเข้าใจด้านภูมิศาสตร์ของตน สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคณาจารย์และเครือข่ายนักวิจัย
“ จากความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมและผลงานสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งทราบมาว่าก่อนเกิดเวทีความร่วมมือในครั้งนี้ เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 11 แห่ง ได้ร่วมมือกันพัฒนาพิพิธภัณฑ์ในท้องถิ่นใน “โครงการ Museum Pool” มาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีการนำร่องในพื้นที่ชุมชนจำนวน 33 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ดูแลของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 11 แห่ง และวันนี้เป็นอีกความร่วมมือของเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ทั้ง 11 สถาบัน กับ เนคเทค สวทช. เพื่อดำเนินการส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาคร่วมกัน”