หลายคนอาจจะเคยรู้จักและได้ยินชื่อ “TPMAP” ( ทีพีแมพ) ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “แผนที่ชี้เป้าคนจน” ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2561 ตามนโยบายการประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้าในการดำเนินการภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศ
… 2 ปีที่ผ่านมา ระบบดังกล่าวได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมรวมถึงนำร่องทดสอบใช้งานจริงในหลายจังหวัดทั่วประเทศ…
จากเวอร์ชั่นแรก “ TPMAP1.0 “ ที่เกิดขึ้นจากการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังระดับชาติ และระดับโลก
“การออกนโยบายแบบปูพรม ไม่สามารถแก้ปัญหาได้แบบตรงจุดและทั่วถึงในทุกพื้นที่ ซึ่งการจะแก้ปัญหาความยากจนได้นั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้ก่อนว่า ใครคือคนจนและคนจนอยู่ที่ไหน ปัญหาของคนจนคืออะไร และจะแก้ไขปัญหาคนจนอย่างยั่งยืนได้อย่างไร ”
เพื่อหาคำตอบดังกล่าว.. จึงเป็นที่มาของ “TPMAP 1.0” ซึ่ง “ดร.สุทธิพงศ์ ธัชยพงษ์” หัวหน้าทีมวิจัยการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์เนคเทค-สวทช. บอกว่า เป็นการประยุกต์ใช้การนำเข้าข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า เพื่อนำร่องในการให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาความยากจนใน 5 มิติ ตามบริบทของประเทศไทย คือ “ด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้และการเข้าถึงบริการภาครัฐ”
เบื้องต้นระบบใช้ข้อมูลจาก จปฐ.หรือข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน จากกรมการพัฒนาชุมชน เป็นแกนกลางเชื่อมโยง กับฐานข้อมูลการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง เพื่อหาคนจนเป้าหมายของระบบที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน
มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเข้าข้อมูล เกิดการบูรณาการข้อมูลทำให้ระบบสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งนอกจากมิติความยากจนแล้ว ยังนำไปสู่การพัฒนาเป็น “ระบบสำหรับการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต” หรือ “TPMAP 2.0”
ปัจจุบันมีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนคนพิการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ข้อมูลการรับเบี้ยคนพิการและผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้อมูลสิทธิการรักษาพยาบาล ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.)
ระบบนี้ใช้เทคโนโลยีในการประมวลผลข้อมูลประกอบด้วยเทคโนโลยี บิ๊กดาต้า อนาไลติกส์ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เครือข่ายข้อมูล มีการบูรณาการข้อมูล ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลซึ่งกันและกัน และแสดงผลในรูปแบบแผนที่ เป็น Dashboard ที่ทำให้เข้าใจฐานข้อมูลความยากจนเชิงพื้นที่ในมิติต่าง ๆ ได้
ทั้งนี้ระบบ TPMAP ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงหน่วยงานที่ต้องการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง สามารถเข้าถึงข้อมูลในระดับภาพรวมของประเทศ จังหวัด อำเภอตำบลและหมู่บ้านได้ผ่านทาง https://www.tpmap.in.th/
..แต่การจะเข้าถึงข้อมูลรายครัวเรือนหรือรายบุคคลนั้น จะให้สิทธิเฉพาะผู้บริหารจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยเข้าผ่านระบบ “TPMAP Logbook” (ทีพีแมพ ล็อกบุ้ค) หรือ”ระบบแฟ้มบ้านพัฒนาคนไทย” ซึ่งถือเป็นเครื่องมือเชิงนโยบายแรกของประเทศที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายของการพัฒนาได้ทั้งในครัวเรือนและบุคคล…
สำหรับระบบ TPMAP Logbook นี้ ทีมวิจัยได้ต่อยอดพัฒนาออกมา เพื่อเป็น “เครื่องมือ” ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ สามารถนำไปใช้ในการดำเนินงานได้แบบสะดวก รวดเร็ว และแก้ปัญหาอย่างตรงจุดมากที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเบื้องต้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว สามารถบันทึก แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้ตรงตามข้อเท็จจริงในพื้นที่ ใช้สอบถามสาเหตุของปัญหา ติดตามการแก้ปัญหารายครัวเรือน บันทึกข้อมูลปัญหาและกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือ และสามารถรายงานผลการดำเนินงานติดตามความช่วยเหลือได้อีกด้วย
…การที่ระบบสามารถประมวลผลวิเคราะห์ และสังเคราะห์ผู้รับสวัสดิการได้ถึงในระดับรายบุคคล ทำให้สามารถช่วยลดปัญหาความซ้ำซ้อน การตกหล่น หรือการเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงได้ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และคุ้มค่ากับงบประมาณแผ่นดิน…
ปัจจุบัน หลายจังหวัดเริ่มนำเอาระบบ TPMAP และ TPMAP Logbook ไปใช้งาน โดยจังหวัดแรกที่มีการนำร่องนำระบบไปใช้งาน ก็คือ “จังหวัดสมุทรสงคราม” ซึ่งแม้ไม่ใช่จังหวัดที่ติดอันดับความยากจนของประเทศ แต่สมุทรสงคราม ก็ใช้ TPMAP และ TPMAP Logbook ในการศึกษาข้อมูลปัญหาเชิงลึกของจังหวัด ซึ่งพบว่าตกเกณฑ์ในเรื่องของรายได้และการศึกษา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทำโครงการเพื่อแก้ปัญหาตามความต้องการของแต่ละพื้นที่
จากประโยชน์ของระบบดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและคามเหลื่อมล้ำและการพัฒนาคนทุกช่วงวัยได้อย่างบูรณาการ รวมถึงเกิดการนำระบบไปใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง และทั่วประเทศ ล่าสุด.. เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ในการประชุม ”การเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลือมล้ำในระดับพื้นที่โดยใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาแบบชี้เป้า” ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมี “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ฯ
พลเอกประวิตร ได้มีข้อสั่งการมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยใช้ข้อมูลจากระบบ TPMAP ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ร่วมกับภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เพื่อการพัฒนาแก้ไขปัญหาคนทุกช่วงวัย และการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาความถูกต้องและครอบคลุมของข้อมูลในระบบให้ครบถ้วนทุกพื้นที่เขตเมืองของประเทศไทย
และสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งงบประมาณในการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลือมล้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และให้ สภาพัฒน์ฯ ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ยกร่างคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ รวมถึงให้สภาพัฒน์ฯ เนคเทคร่วมกับหน่วยงานและภาคีการพัฒนาต่าง ๆ พัฒนาระบบ TPMAP ให้มีข้อมูลและประเด็นการพัฒนาที่ครอบคลุมมิติการแก้ปัญหาความยากจนและมิติการพัฒนาต่าง ๆ
อย่างไรก็ดีในการประชุมดังกล่าว ยังมีการนำเสนอ 5 โมเดลตัวอย่างการแก้ปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่ด้วยข้อมูลจาก TPMAP คือ จ.ขอนแก่น จ. เชียงราย จ.นครพนม จ.นครศรีธรรมราช และ จ.อุทัยธานี
“นางสาวลัดดา ศรีบุรมย์” นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม หนึ่งในจังหวัดนำร่อง บอกถึง การนำ TPMAP และ TPMAP Logbook ไปใช้งานว่า ใช้ในการชี้เป้าครัวเรือนเป้าหมายที่จะให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ”นครพนม สร้างสังคมอุดมสุข” จำนวน 278 ครัวเรือน ผลตอบรับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะระบบช่วยชี้เป้าได้อย่างตรงจุด ขณะเดียวกันครัวเรือน ก็มีความพึงพอใจกับโครงการและอยากให้ส่วนราชการมองเห็น ไม่ได้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ในปี 2564 จะดำเนินโครงการนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และให้ความสำคัญกับ TPMAP Logbook มากขึ้น
ด้าน ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค บอกว่า ที่ผ่านมาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับนโยบายให้นำ TPMAP ไปใช้มาแล้วระยะหนึ่ง แต่ครั้งนี้ท่านรองนายกได้มาเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การนำไปใช้ได้มีตัวอย่างของจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็ 5 จังหวัดที่มาแสดงและมีวิธีการอย่างไร ซึ่งมีความหลากหลายในการลงไปแก้ไขปัญหา โดยจุดสำคัญอยู่ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมีการตั้งกลไกในการเอาตัวระบบนี้ไปติดตามและไปใช้งาน คาดว่าหลังจากนี้ จะมีวิธีการถ่ายทอดกระบวนการให้ผู้ว่า ฯ ในอีกหลายจังหวัดที่สนใจ และมีการตั้งเรื่องปัญหาความยากจนเป็นวาระของจังหวัด ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาความยากจนทำได้รวดเร็วขึ้น
“ ผมเชื่อแน่ว่าระบบนี้จะต้องพัฒนาการต่อไป เมื่อมีนโยบายชัดเจน การรวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆจะเกิดได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยบอกได้อย่างมากว่าคนจนอยู่ที่ไหน มีปัญหาอะไร ส่วนตัว TPMAP Logbook ซึ่งเป็นตัวบันทึกการทำกิจกรรมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีที่มาจากการที่ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสงครามลงพื้นที่แล้วพบว่าควรจะมีระบบนี้ เพราะฉะนั้นในอีกหลาย ๆ จังหวัดที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าเขาจะแนะนำว่าจริง ๆ แล้วควรจะเพิ่มอะไรอีก ซึ่งเนคเทคก็พร้อม โดยมีสภาพัฒน์ฯ เป็นคนช่วยแนะนำว่าเราควรจะทำระบบอะไรเพิ่มเติมได้ด้วย ”
เรียกได้ว่า…มีระบบนี้เป็นตัวตั้งต้น และระบบนี้ไม่ใช่แค่ชี้เป้า”คนจน” แต่ยังทำให้เห็นถึงความคืบหน้าของการช่วยกันแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศอย่างเรื่องของความยากจนอีกด้วย
จังหวัดไหนยังไม่ใช้… รีบด่วน!