อพวช.จับมือสทท. ผลักดันกระแสการท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ นำร่องกิจกรรมแรก “วันเดียวเที่ยว Museum” หนุนโปรแกรมท่องเที่ยว อพวช. ภายใน 1 วัน บรรจุอยู่ในโปรแกรมของบริษัททัวร์ ภายใต้สังกัด สทท. และททท.
เมื่อเร็ว ๆ นี้ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ลงนามความร่วมมือกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อผลักดันกระแสการท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดย ผศ.ดร. ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า กระทรวง อว. มีนโยบายในการพัฒนาประเทศให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ผ่านแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิทยาศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่มเป้าหมายและง่ายต่อการเข้าใจ การลงนามความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้จึงถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันแหล่งท่องเที่ยวด้านวิทยาศาสตร์ให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่สนใจกับนักท่องเที่ยวในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะในส่วนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จ.ปทุมธานี ซึ่งเปรียบเสมือนสมิธโซเนียนของเอเชีย รวมทั้ง จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการ อพวช. กล่าวว่า อพวช. มีภารกิจในการส่งเสริมสังคมไทยให้สนใจและเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศ และปลูกฝังให้เยาวชนมีทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้ง เป็นสถานที่ให้ความรู้และความเพลิดเพลินแก่ครอบครัว ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมเสริมศึกษา ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชม โดยเน้นชิ้นงานแบบ Hands-on เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์ผ่านการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ทั้งนี้ อพวช. มีแหล่งเรียนรู้ที่มีความหลากหลายให้บริการในพื้นที่เดียว ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของตัวอาคารรูปทรงลูกบาศก์ขนาดใหญ่ 3 ลูกวางพิงกันอย่างสมดุล ใช้มุมแหลมของแต่ละลูกบาศก์รับน้ำหนัก แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันล้ำยุค ภายในแบ่งเป็น 6 ชั้น จัดแสดงนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพื้นฐาน ง่ายต่อความเข้าใจ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เป็นสถานที่จัดแสดงและแหล่งอ้างอิงข้อมูลวัสดุตัวอย่างทางด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทย และเป็นแหล่งสตัฟฟ์สัตว์สมัยใหม่ หรือ Taxidermy ที่มีความพร้อมและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตลอดจนจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยาที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของการสื่อสาร ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และโลกอนาคต โดยนำเสนอเนื้อหาสาระในรูปแบบที่สนุกสนานผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบและพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า แหล่งเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่ของอาเซียน ที่ช่วยสร้างความตระหนักให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร
ผศ.ดร.รวิน กล่าวว่า อุปสรรคที่ อพวช. เผชิญตลอดมาคือ ความเข้าใจในเรื่องสถานที่ ที่มองว่าเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กเท่านั้นดังนั้น จึงเป็นโอกาสดี ที่ อพวช. และ สทท. จะร่วมมือกันในการทำให้เกิดแรงผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยวเรียนรู้วิทยาศาสตร์ขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยกิจกรรมแรกที่จะดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม คือ โครงการ “วันเดียวเที่ยว Museum” เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้โปรแกรมการท่องเที่ยว อพวช. ภายใน 1 วัน บรรจุอยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ หรือผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายใต้สังกัด สทท. รวมทั้ง ททท. ต่อไป
ด้าน นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญด้านการท่องเที่ยวในด้านการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่รอบตัวเรา ผ่านแหล่งเรียนรู้ที่จับต้องได้ในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งของ อพวช. รวมทั้ง เป็นการส่งเสริมผลักดันให้ อพวช. เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวิทยาศาสตร์แห่งใหม่ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว หรือมาตรฐาน SHA เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวรูปแบบวิถีใหม่ New Normal ที่เปลี่ยนไปหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับโครงการ “วันเดียวเที่ยว MUSEURM” ที่ดำเนินการร่วมกันเป็นโครงการแรก ทาง สทท. จะร่วมผลักดันให้เป็น 1 Route Trip ที่ต้องห้ามพลาด ผ่านทางผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ภายใต้สังกัด สทท. และสมาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป เพื่อส่งเสริมให้ อพวช. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้อย่างแน่นอน