เอ็นไอเอจับมือ NICFD เปิดตัวศูนย์การเรียนรู้“ชราแลนด์” อุดช่องว่างระหว่างเยาวชน – สังคมสูงวัย พร้อมดันเด็กรุ่นใหม่ก้าวสู่ผู้ออกแบบนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือเอ็นไอเอ (NIA) กล่าวว่า NIA มุ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการ“STEAM4INNOVATOR” ซึ่งเป็นแนวทางจัดการเรียนรู้สมัยใหม่ ที่นำความรู้ด้านธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการมาบูรณาการเข้ากับความรู้ความเข้าใจทางด้าน STEAM เพื่อให้เยาวชนสามารถประยุกต์และสร้างสรรค์ผลงานบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีมิติของการประกอบธุรกิจนวัตกรรมอยู่ด้วย ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ หรือ Learning Station เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ NIA จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในงานถนนสายวิทยาสตร์ และงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ล่าสุด NIA ได้ร่วมมือกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ NICFD ขยายผลกิจกรรม Learning Station ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ถาวรที่เยาวชนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอดทั้งปี ความร่วมมือนี้เป็นการใช้องค์ความรู้ทั้งด้านนวัตกรรมของ NIA และ ด้านพัฒนาการเด็กของสถาบันฯ มาออกแบบกระบวนการแต่ละฐานการเรียนรู้ให้สามารถเข้าถึงพฤติกรรม ความคิดและการตอบสนองของเด็กแต่ละช่วงวัย สร้างทักษะที่สำคัญของนวัตกร คือ การคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา และคิดสร้างสรรค์ อันเป็นเป้าหมายร่วมที่สำคัญของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อสร้างนิสัยการเรียนรู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตต่อไปอย่างมีคุณภาพ
“สำหรับ Learning Station นี้จัดขึ้นในธีม “INNO OLD-K” เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ น้อง ๆ เยาวชนควรได้เรียนรู้ เข้าใจปัญหา และสามารถเป็นผู้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตในวัยชราได้อย่างมีความสุข โดยกิจกรรมประกอบด้วย 4 ฐาน ได้แก่ Stage 1 รู้ลึก รู้จริง : สูงวัย Why เก๋า? น้อง ๆ จะได้ทดลองเป็นผู้สูงอายุ เพื่อเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง Stage 2 Wow Idea : Cha la land แดนไอเดีย น้อง ๆ จะได้ดูตัวอย่างนวัตกรรมที่แก้ปัญหาให้กับผู้สูงอายุ Stage 3 Business Model : อาวุโส Model น้อง ๆ จะได้เล่นเกมเพื่อแลก STEAM coin สำหรับนํามาซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้ในการทําผลงานต้นแบบ และรู้จักกับการเขียนแผนธุรกิจเบื้องต้น และ Stage 4 Production & Diffusion : Inno Elderland น้อง ๆ จะได้รู้จักกับวิธีการและช่องทางในการขายสินค้า การทําบรรจุภัณฑ์เบื้องต้น และการคำนวนต้นทุน กำไร กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญของเยาวชนสู่การเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมได้ในอนาคต”
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สาวิตรี ทยานศิลป์ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็ก และครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การเตรียมพร้อมการเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์นี้ จะต้องเสริมแนวคิดใหม่เชิงรุก นอกเหนือนโยบายแบบตั้งรับเพื่อการแก้ปัญหาของผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ซึ่งไม่ทันกับสถานการณ์ที่ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น แนวคิดเชิงรุกได้แก่การสร้างผู้สูงอายุที่มีความสุขและสุขภาพดี โดยเตรียมความพร้อมของคนทุกวัยเพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า และ เตรียมคนทุกวัยให้พร้อมที่จะอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุ กับเด็ก… คนสองวัยนี้เกี่ยวพันกันได้ ในรูปบทบาทของการเป็น เทียด ทวด ปู่ย่าตายาย ที่จะต้องเลี้ยงหลาน เหลน ลื่อ ซึ่งโครงสร้างของครอบครัวไทยจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ผู้สูงอายุกับเด็กต้องอยู่ร่วมกันและพึ่งพากันมากขึ้น เมื่อผู้สูงอายุและเด็ก ต่างคนต่างวัย ต่างสไตล์การใช้ชีวิตอายุยิ่งห่างกัน ยิ่งเกิดช่องว่างทางความคิดยิ่งต่างกัน ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย จนเป็นปัญหาใหญ่ทางสังคมสูงวัย นำไปสู่การไม่ยอมรับของอีกฝ่าย ต่างคิดว่าตนเองถูกต้องเสมอ พอมีปัญหาหรือไม่เข้าใจกันก็ไม่ปรึกษาพูดคุย ทำให้เกิดความห่างเหินสัมพันธภาพในครอบครัวอ่อนแอ ครอบครัวไม่มีความสุข ซึ่งทางออกของปัญหาคือการจัดกิจกรรมระหว่างวัย สร้างความเข้าใจในความแตกต่าง ส่งเสริมให้เกิดการยอมรับ และเคารพในความแตกต่าง แบ่งปันประสบการณ์และที่สำคัญคือ การร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ Happy Together Old and Young
ขณะที่ เด็กชายสิรวิชญ์ สุบินมิตร อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดสาลวัน กล่าวว่า “หลังจากได้ลองเข้ามาเรียนรู้ที่ชราแลนด์แล้ว ทำให้เข้าใจผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น และรู้ว่าผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้วิธีการดูแลคนแก่ว่าจะต้องทำอย่างไรให้พวกท่านมีความสุข และอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวได้แบบพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งตนจะเอาความรู้ที่ได้จากศูนย์การเรียนรู้ชราแลนด์กลับไปดูแลคุณย่าที่บ้าน และจะคอยช่วยเหลือคุณย่าให้มากขึ้นกว่าเดิม ศูนย์นี้เป็นความรู้นอกห้องเรียนที่นอกจากสนุกสนานแล้วยังได้ความรู้มากมาย นอกเหนือไปจากความรู้ในการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุแล้ว ยังให้ตนเองและเพื่อนๆ ได้ลองคิด อุปกรณ์ หรือนวัตกรรมที่จะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งตนและเพื่อน ๆ ได้ลองเสนอแนวคิดและได้ทดลองทำจริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หาในห้องเรียนไม่ได้”