พลัส พร็อพเพอร์ตี้ผนึกพาร์ทเนอร์ เปิดตัวบ้านหรู “เมฆา รามอินทรา” มั่นใจปี 65 เติบโต15%ตามเป้า

Real Estate

“พลัส พร็อพเพอร์ตี้” รุกรับบริหารการโครงการบ้านแนวราบ ผนึกพาร์ทเนอร์ เมฆา รามอินทรา เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว Luxury Private Residence เสริมทัพความปลอดภัยอัจฉริยะด้วย LIV-24 กระแสตอบรับดีเปิดตัวเพียง 3 วัน กวาดยอดขายกว่า 100 ล้าน มั่นใจปี 65 ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมาย 15%

          นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการเมฆา รามอินทราได้แต่งตั้ง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริหารงานขายโครงการแนวราบระดับลักชัวรี่ มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท เนื่องด้วยพลัสฯ ทำงานแบบเป็นพาร์ทเนอร์ ร่วมคิดและลงรายละเอียดในทุกขั้นตอน ไม่ใช่แค่ตัวแทนขาย 

            โดยนำเสนอบริการแบบ Total Solution ทั้งธุรกิจบริหารงานขาย (Sole Agent) ดูแลให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการ การออกแบบ การตลาดและงานขาย รวมถึงพ่วง LIV-24 เทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะ เข้ามาเสริมจุดขายที่แตกต่าง ด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) ส่งผลให้ได้รับกระแสตอบรับที่ดี กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 100 ล้าน หลังเปิดขายได้เพียง 3 วันเท่านั้น

            นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย LIV-24 Living Technology เปิดเผยว่า ทางโครงการเมฆา รามอินทรา ได้วางใจให้ LIV-24 ช่วยออกแบบและติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่รอบโครงการ พร้อมมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง 

           โดย 3 ฟังกัชันความปลอดภัยที่โครงการฯ เลือกใช้ อาทิ 

          1. AI CCTV Analytics ที่คอยสอดส่องพื้นที่ส่วนกลาง และถนนหลักในโครงการ ทันทีที่มีเหตุผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนมายังศูนย์ Command Centre และผู้เชี่ยวชาญจาก LIV-24 จะประสานงานเจ้าหน้าที่ที่โครงการ เพื่อเข้าตรวจสอบเหตุและระงับเหตุในทันที 

          2. Digital Fence ที่ติดตั้งโดยรอบโครงการ เพื่อป้องกันการบุกรุกจากบุคคลภายนอก รวมถึงสัตว์อันตรายจากนอกโครงการ 

          3. Guard Tour ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่รปภ. ให้เดินตรวจตราความปลอดภัย เช็คจุดเสี่ยง จุดอับตามรอบที่กำหนด  ซึ่ง LIV-24 มั่นใจว่าจะด้วยการผสานเทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะ และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญของเรา จะสามารถดูแลสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกบ้านของเมฆา รามอินทราได้อย่างดี”

            สำหรับโครงการ “เมฆา รามอินทรา” ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูเพียง 1 กิโลเมตร และใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Pride For Endless Pleasure” เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์  Modern Luxury 3 ชั้นที่เน้นความเป็นส่วนตัว มีเพียง 24 ยูนิตเท่านั้น  มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยมากถึง 489 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์ สระว่ายน้ำ และสวนส่วนตัว มีระบบ Home Automation รองรับอุปกรณ์ Smart Home และมีจุดติดตั้ง EV Charging Outlet บริเวณที่จอดรถ พร้อมกับสเปควัสดุที่คัดสรรเฉพาะระดับพรีเมียม 

            นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบโครงการยังติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง และได้รับการดูแลแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงจาก LIV-24  สำหรับลูกค้าที่สนใจเยี่ยมชมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://mekaramintra.com/

                ทางด้านนายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2565 ของพลัสฯ ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มงานบริหารสินทรัพย์  (Asset Management) และงานบริหารจัดการอาคาร (Property Management)  อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาพลัสฯ ประสบความสำเร็จในกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยเป็นอย่างมาก แม้มีสถานการณ์โควิดที่กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในภาพรวม และยังได้รับเสียงชื่นชมและการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่พลัสฯ มีมาตรการดูแลพิเศษในทุกช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด สามารถอำนวยความสะดวกและรับมือดูแลลูกบ้านและผู้พักอาศัยกว่า 80,000 ครอบครัวให้อยู่อาศัยร่วมกันอย่างปลอดภัยในทุกระลอก

อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ

                ทั้งนี้ จากจุดแข็งของพลัสฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้มากกว่า 25 ปี มีประสบการณ์ดูแลโครงการในทุกระดับราคาตั้งแต่โครงการทั่วไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปีนี้พลัสฯ จึงมีแผนการดำเนินธุรกิจที่เน้นการสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจนี้เป็นหลัก สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย จะเพิ่มสัดส่วนโครงการระดับลักซ์ชัวรี่มากขึ้นโดย โดยชูจุดแข็งเรื่องของ GLOBAL STANDARD และ CUSTOMISE SERVICE วางใจได้ในการดูแลจากทีมบริหารนิติบุคคลมาตรฐานระดับสากล และมีบริการพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะโครงการนั้นๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการที่เหนือความคาดหมายในแต่ละโครงการ นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการอาคารในโครงการเพื่อการพาณิชย์ ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดดเด่นของพลัสฯ เช่นกัน ทั้งอาคารขนาดใหญ่ของธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา รวมถึงคอมมูนิตี้มอลที่พลัสฯ ดูแลอย่างมืออาชีพที่เป็นพาร์ทเนอร์เคียงข้างเจ้าของอาคาร ยกระดับมาตรฐานอาคารโดยมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกัน

        “โครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการหมู่บ้าน ยังคงมีการเติบโตและมีโครงการเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง พลัสฯ มองเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ ปี 2565 จึงเป็นปีที่พลัสฯ จะเน้นสัดส่วนการเพิ่มรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่พลัสฯ มีความเชี่ยวชาญ จากประสบการณ์การบริหารโครงการที่พักอาศัยในทุกระดับราคา เป็นบริษัท TOP3 ของไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล และความพร้อมในการดูแลบริหารโครงการที่สามารถปรับตัว รับมือได้ในทุกสถานการณ์ โดยที่ผ่านมาแม้จะเกิดวิกฤตโควิดแต่พลัสฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการต่อสัญญา รวมถึงได้รับการติดต่อจากโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง พลัสฯ จึงมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเติบโต 15% ได้ โดยในปัจจุบัน พลัสฯบริหารโครงการที่พักอาศัยกว่า 270 โครงการ โดยคิดเป็นพื้นที่กว่า 13 ล้าน ตารางเมตร” นายอนุกูลกล่าว