เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ณ ห้องประชุม สำนักงานอธิการบดี AIT ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ ดร.เอเดน วูน อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาการอบรมระดับนานาชาติ เพื่อขยายขอบข่ายความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม โดยมี นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. ดร.ประทีป วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. และ ดร.พัชทรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. พร้อมผู้บริหาร บุคลากรทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นเกียรติในงาน
ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. มีภารกิจสำคัญในการวิจัยและพัฒนา การทดสอบและสอบเทียบ การบริการทางเทคนิค รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อนำไปสนับสนุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน สนับสนุนผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมให้เข้มแข็ง ในทศวรรษที่ผ่านมา วว. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องไปยังภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจชุมชน สร้างความก้าวหน้าในการนำไปใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green (BCG) ของรัฐบาล ซึ่งใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของประเทศไทยในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ มีการดำเนินกิจกรรมทางการเกษตร สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรธรรมชาติ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่าง AIT และ วว. จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ BCG ที่สามารถขับเคลื่อนและส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการพัฒนาสังคม นอกจากนี้ยังจะร่วมดำเนินงานเพื่อเพิ่มศักยภาพของทั้งสองหน่วยงานในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม ถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนขยายเครือข่ายไปสู่ระดับชาติและระดับนานาชาติ
ด้านดร.เอเดน วูน อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) กล่าวว่า AIT มุ่งเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และการจัดการ เพื่อเตรียมผู้สำเร็จการศึกษาให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในวิชาชีพและบทบาทความเป็นผู้นำในเอเชีย ที่มีความเกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ สร้างผลกระทบทางสังคม ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก ความร่วมมือกับ วว. ในครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาการอบรมระดับนานาชาติร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป