บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เดินหน้าบนรากฐานที่มั่นคงสู่การดำเนินงานครบรอบ 30 ปี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ภายใต้ทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนจากแนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายใน ปี 2593 สอดรับยุคเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนเอ็กโก กรุ๊ป เนื่องในวันคล้ายวันครบรอบการดำเนินงานปีที่ 30 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัย 5 ด้าน หรือ 4D+1E ได้แก่ Decarbonization, Digitalization, Decentralization, Deregulation และ Electrification ดังนั้น เอ็กโก กรุ๊ป จึงปรับตัวและเร่งขับเคลื่อนองค์กรในทุกด้านให้พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว การกำหนดเป้าหมายระยาว คือ การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และการกำหนดเป้าหมายระยะกลาง ในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% และการลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2573”
ในด้านธุรกิจ เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็น Core Business ควบคู่ ไปกับการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งต้นน้ำและปลายน้ำแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค ซึ่งมีธุรกิจ LNG ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อ และนิคมอุตสากรรมเอ็กโกระยอง ที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ รวมทั้งธุรกิจ Smart Energy Solution ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงาน โดยมีธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “เพียร์ พาวเวอร์” และการร่วมกับพันธมิตรและ กฟผ. ศึกษาและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน (Hydrogen to Power) เป็นต้น
ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environmental, Social and Government) ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินกิจการ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสียมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า การใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าที่หยุดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว มาเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนด้านพลังงานและกระบวนการผลิตไฟฟ้าผ่าน “ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม” การดำเนินกิจกรรมพัฒนาชุมชนและสังคม โดยเน้นกลุ่มเยาวชนและครูมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ “โรงไฟฟ้าพี่โรงเรียนน้อง” และการจัดทำ “หลักสูตรครูพลังงานออนไลน์” เป็นต้น นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังร่วมบรรเทาสถานการณ์โควิด-19 และช่วยเหลือสังคม ควบคู่ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชั่นผ่านโครงการ “เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม” ตลอดจนอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำผ่านการดำเนินงานของ “มูลนิธิไทยรักษ์ป่า” มากว่า 20 ปี
“ก้าวย่างแห่งอนาคต เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้สอดรับกับทิศทางพลังงานโลกเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น ร่วมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทย และเคียงข้างคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตทางพลังงานและการช่วยเหลือชุมชนและสังคมในสถานการณ์ต่างๆ ภายใต้วิสัยทัศน์ที่เรายึดมั่นมาตลอดคือ เป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” นายเทพรัตน์ กล่าว